ถูกจับ 7 ครั้งไม่เข็ด มิจฯสาวพ้นคุก อ้างสนิทผบ.เรือนจำตุ๋นญาตินักโทษ-ลวงหนุ่มบาร์โฮสแต่งงาน

วันที่ 10 สิงหาคม 2567 - 16:55 น.

จับสาวแสบประวัติเพียบ อ้างเป็นญาติ ผบ.เรือนจำตุ๋นญาตินักโทษ-หลอกแต่งงานหนุ่มบาร์โฮส-เบี้ยวเงินค่าจัดงาน

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 10 สิงหาคม พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.ต.ดำรง หีบแก้ว สว.สส.ภ.จว.อุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวจับ น.ส.สุนิสา อายุ 30 ปี ที่อยู่ ต.ภูกระดึง อ.ภูกระดึง จ.เลย ตามหมายจับศาลแขวงอุดรธานี ที่ จ 110/2567 ลงวันที่ 7 สิงหาคม 2567 กล่าวหาว่า “ยักยอก” โดยจับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เขตสุขุมวิท กรุงเทพมหานคร

พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า พ.ต.ท.อรรคพล วงษ์ฤทธิวัลย์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี ได้รับแจ้งจาก สภ.เมืองอุดรธานี ว่า น.ส.สุนิสา อายุ 30 ปี ชาวเมืองเลย อดีตผู้ต้องขังหญิงคดีฉ้อโกง โดนจับเมื่อปี 2564 ได้พ้นโทษออกมาแต่ยังไม่เลิกพฤติกรรม ขณะอยู่ในเรือนจำได้ตีสนิทเพื่อนผู้ต้องขังด้วยกัน หลอกถามเรื่องส่วนตัว เมื่อพ้นโทษออกไปได้ไปพบญาติผู้ต้องขัง อ้างว่าเป็นญาติกับผู้บัญชาการเรือนจำกลางอุดรธานี สามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้ต้องขัง ลดโทษ และทำให้พ้นโทษก่อนกำหนด แต่ต้องใช้เงินในการดำเนินการ ทำให้ญาติผู้ต้องขังหลงเชื่อ ขณะที่ติดต่อพูดคุยกัน น.ส.สุนิสา ได้ขอยืมนาฬิกาโรเล็กซ์ กระเป๋าหลุยส์ สปีดี้ และรถยนต์ แต่ไม่นำมาคืน พอทวงถามก็บ่ายเบี่ยงอยู่เรื่อยมา จึงมาแจ้งความดำเนินคดี ความเสียหายประมาณ 5 ล้านบาท ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวมีความผิดฐานยักยอก

นอกจากนี้ยังมีผู้ตกเป็นเหยื่อ น.ส.สุนิสาอีก 2 ราย โดยเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม นายอำพล อายุ 51 ปี เจ้าของกิจการโต๊ะจีนโจ๊กชุมแพเงินไหลมา และนายพชรพุฒิ อายุ 25 ปี เจ้าของร้านเรือนแม่ศรีเว็ดดิ้ง อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เข้าแจ้งความที่ สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ว่า น.ส.สุนิสา อายุ 30 ปี อ้างว่าเป็นเจ้าสาว มาจ้างให้จัดโต๊ะจีนในงานแต่งงาน 20 โต๊ะ โต๊ะละ 1,300 บาท รวมเป็นเงิน 26,000 บาท และมาเช่าชุดแต่งงาน และให้นายพชรพุฒิจัดสถานที่แต่งงานในราคา 18,700 บาท มัดจำ 2,000 บาท คงเหลือ 16,700 บาท โดยจัดงานที่ร้านใน จ.ขอนแก่น หลังเสร็จงาน ก็ยังไม่ได้รับเงินค่าโต๊ะจีนและค่าเช่าชุดจัดงานแต่งเลย จึงมาแจ้งตำรวจดำเนินคดีกับ น.ส.สุนิสา

ส่วน นายโอ อายุ 21 ปี ชาวกรุงเทพฯ เจ้าบ่าวป้ายแดงที่แต่งงานกับ น.ส.สุนิสา เล่าว่า รู้จักกันทางสื่อออนไลน์เฟซบุ๊ก จากนั้นแชตคุยกัน น.ส.สุนิสาเป็นเจ้าของร้านใน จ.ขอนแก่น มีแฟนเป็นจีนเทา ได้ชวนตนมาทำงานที่บาร์ด้วย ตนจึงไปทำงานที่บาร์ พบว่า น.ส.สุนิสาทำตัวหรูใช้กระเป๋าแบรนด์เนม ขับรถหรู ต่อมา น.ส.สุนิสาชวนตนจัดงานแต่งงานเพื่อแก้กรรม-ต่อชีวิต ตนจึงเข้าพิธีแต่งงานเพื่อช่วยเหลือ โดยผู้หญิงจัดงานเองหมดทุกอย่าง ทั้งสินสอดไปเช่ามา หลังจากแต่งงานตนก็ถูกยึดทรัพย์สินของตนหมดทุกอย่าง ทั้งเงินในบัญชีก็ถูกถอนไปหมด คอมพิวเตอร์ของตนก็นำไปขาย ยึดมือถือไม่ให้เล่น และชวนตนจดทะเบียนด้วย แต่ตนไม่กล้าจดเพราะกลัวแฟนจีนเทาของ น.ส.สุนิสา ซึ่ง น.ส.สุนิสาได้มีการพูดข่มขู่ว่า รู้จักกับจีนเทา ต้องเชื่อฟัง หากไม่เชื่อฟังจะให้แฟนจีนเทาจัดการ ตนจึงไม่กล้าโวยวาย

พ.ต.อ.ฉกาจน์เปิดเผยต่อว่า จากการสอบสวน น.ส.สุนิสาให้การภาคเสธ แค่ยืมรถมาใช้แต่ยังไม่ได้ส่งคืน ซึ่ง น.ส.สุนิสามีพฤติกรรมหลอกลวงผู้อื่นอยู่เป็นประจำ อ้างแฟนเป็นจีนเทา หลอกแต่งงาน กักขังหน่วงเหนี่ยว เบี้ยวค่าแต่งงาน อ้างเป็นญาติ ผอ.เรือนจำ เข้าออกคุกเป็นว่าเล่น ถูกจับก็ไม่สำนึกผิด ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติการต้องคดีอาญาพบว่าเคยถูกดำเนินคดีอาญามาแล้ว 7 คดี 7 หมายจับ หากประชาชนท่านใดเคยได้รับความเดือดร้อนจากการถูกหลอกลวงจาก น.ส.สุนิสา สามารถติดต่อตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานีในดำเนินการตามกฎหมายกับ น.ส.สุนิสาต่อไป