เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(ผบช.ก.) เรียกประชุมชุดสืบสวน โดยมีผู้แทนของจากธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธปท. และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. เข้าร่วมประชุม เป็นครั้งที่ 4 เพื่อคลี่คลายคดีที่ “ฟิล์ม” รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ นักร้องนักแสดง กับพวกเปิดบริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์หรืออีมันนี ในการใช้ชำระค่าสินค้าและบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตจาก ธปท.
โดย พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รองผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวน กล่าวว่า ตำรวจได้ออกหมายเรียกให้ กรรมการบริษัท5คน และนิติบุคคลของบริษัท มารับทราบข้อหาให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตในวันที่ 3 มีนาคม เวลา13.00น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. หลังพบว่าบริษัทดังกล่าวประกอบธุรกิจไม่ถูกต้อง แต่ยังไม่มีสมาชิกของบริษัทเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน จึงพบเพียงความผิดเกี่ยวกับการให้บริการเพียงอย่างเดียว ส่วนจะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เบื้องต้นจากการตรวจสอบขณะนี้ยังพบว่ามีเพียง บริษัทเพย์ออล ที่เข้าข่ายความผิดเพียงแห่งเดียว
ด้านนายณัชพัทร ขาวแก้ว นิติกรชำนาญการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า เดิมทีบริษัทเพย์ออล กรุ๊ป จดทะเบียนในนาม บริษัทนาน่า คอเปอเรชั่น จำกัด ซึ่งขออนุญาตเป็นบริษัทขายตรงจำหน่ายผลิตภัณท์ประเภทอาหารเสริมและเครื่องสำอาง รวม 6 รายการ ตั้งแต่ปี 2555 ก่อนจะมาขออนุญาตกับ สคบ.และกรมการค้าภายใน เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นเพย์ออล กรุ๊ป จำกัด เมื่อปี2558 พร้อมปรับแผนการทำงานเป็นบริการอีมันนี ซึ่งยังไม่ได้รับอนุญาต แต่กลับให้บริการจึงเข้าข่ายการกระทำผิด และได้มีการเชิญ กรรมการ 5 คน และนิติบุคคล มาเปรียบเทียบเสียค่าปรับรายละ 300,000บาท รวมเป็นเงิน 1,800,000 บาท ส่วนกรณี ฟิล์ม รัฐภูมิ ออกมาแถลงข่าวเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ในทางคดีต้องดำเนินการต่อไป
