ลุ้นปาฏิหาริย์ หนูน้อย 3 ขวบ อาการขั้นโคม่า พม.อุดรฯส่งทีมหาสาเหตุ

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ เมื่อเวลา 13.00 น. ที่หอผู้ป่วยศัลยกรรมประสาท ชั้น 7 โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี นายสุชัย บุตรสาระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นายภูมิพัฒน์ ธนาสิทธิตานนท์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.อุดรธานี ร่วมเดินทางเข้าเยี่ยม ด.ช.วุฒิ (นามสมมุติ) อายุ 3 ปี ชาวบ้านบ้านท่าลี่ ต.ท่าลี่ อ.กุมภวาปี นอนพักรักษาตัวในอาการโคม่า ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยชีวิต โดยมี นพ.ณรงค์ ธาดาเดช รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์, พญ.เกษมพร ไชยเอีย หน.กลุ่มงานกุมารเวชกรรม และกลุ่มสหวิชาชีพ ชี้แจงอาการของเด็กเกิดจากถูกทำร้าย ไม่ตรงกับคำให้การของแม่และพ่อเลี้ยง

 

นพ.ณรงค์ และ พญ.เกษมพร ร่วมชี้แจงว่า ด.ช.วุฒิถูกส่งตัวจาก รพ.กุมภวาปี โดยคณะแพทย์ได้ตรวจพบว่า กะโหลกร้าว สมองซ้ายบวม ก้านสมองซ้าย-ขวาเคลื่อน ตกเลือด ม่านตาไม่ตอบสนองแสง หรือที่เรียกว่า “สมองตาย”, ซี่โครง 8-9-10 ด้านซ้ายหัก, ตับซ้ายฉีก, ไตขวาฉีก มีเลือดในช่องท้อง และแขนขวาหัก ถูกรถชนยังไม่รุนแรงขนาดนี้ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา หากถอดเครื่องหายใจออกเด็กก็จะเสียชีวิตในทันที โดยร่างกายก็ไม่ตอบสนอง ความดันสัญญาณชีพเริ่มลดลงเรื่อยๆ

 

Advertisement

ด้านนายภูมิพัฒน์กล่าวว่า ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวจะร่วมกันในหลายหน่วยงานในลักษณะ “สหวิชาชีพ” สรุปได้ว่า แม่เด็กมีลูก 2 คน คนโตเป็นหญิงเรียนอยู่ ป.2 อาศัยอยู่กับญาติผู้ใหญ่ คนเล็กคือ ด.ช.วุฒิ ปกติจะอยู่กับยาย โดยแม่เด็กอยู่กับสามีใหม่ 7 เดือน แต่ ด.ช.วุฒิมาอยู่ด้วยเพียง 3 เดือนเท่านั้น เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ด.ช.วุฒิบาดเจ็บแขนหัก โดยเมื่อวันก่อนแม่ได้พาไปทำแผลที่ รพ.สต. จากนั้นไม่นานก็กลับมา รพ.สต.อีกในอาการหมดสติ จึงนำส่ง รพ.กุมภาปี และส่งต่อ รพ.อุดรธานี

 

พมจ.อุดรธานีกล่าวอีกว่า นอกจากที่จะต้องดูแลรักษา ด.ช.วุฒิในเรื่องของอาการบาดเจ็บ ยังได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เกิดเหตุสอบข้อเท็จจริงตามอำนาจหน้าที่ เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ถูกกระทำ รวมไปถึงสนับสนุนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังหาความจริงว่าใครเป็นผู้กระทำกับเด็ก ซึ่งปัญหาความรุนแรงในครอบครัวเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายจะต้องช่วยกัน ไม่คิดว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัวคนอื่น หากพบเห็นการกระทำรุนแรงต่อเด็ก หรือบุคคลอื่นใด สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1300

 

ขณะที่นายสุชัยเปิดเผยว่า ผู้ว่าฯอุดรธานีมีความเป็นห่วงเป็นใยเรื่องนี้ มอบหมายให้ตนเองติดตาม มอบเงินช่วยเหลือฉุกเฉิน รับทราบว่าหลังเกิดเหตุ ทุกฝ่ายร่วมมือกันทำงานในนาม “สหวิชาชีพ” พบว่า น.ส.สุ (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี และนายวี (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี แม่และพ่อเลี้ยงยังให้การสับสนขัดกันกับผลการตรวจข้อเท็จจริงของหมอและสหวิชาชีพที่เชื่อว่าเด็กบาดเจ็บจากการกระทำ หรือถูกทำร้าย ซึ่งตำรวจกำลังสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนอาการของเด็กน่าเป็นห่วงมาก เรายังต้องรอปาฏิหาริย์

 

นอกจากนี้ นายสุชัยยังได้รับรายงานจาก รพ.ศูนย์อุดรธานีว่ามีเหตุความรุนแรงในครอบครัวอีก โดยโรงพยาบาลได้รับ ด.ญ.วัย 9 ขวบถูกพ่อซึ่งเมาเหล้าทำร้าย จนเกิดรอยเขียวช้ำตามร่างกาย และพ่อยังตามจะมาเอาลูกคืน โรงพยาบาลได้กักตัวเด็กรักษาต่อ และติดต่อสหวิชาชีพร่วมช่วยเหลือ พบว่าพ่อหย่าร้างกับภรรยา มีลูก 2 คน คนโตเป็นชายอายุ 16 ปี เคยถูกพ่อทำร้ายจนสลบ อยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็ก คนเล็กเป็นหญิงอายุ 9 ขวบ เคยอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็ก แต่พ่อตามไปขอรับคืน เมื่อเกิดเหตุครั้งนี้ พมจ.อุดรธานีจะเข้ามาคุ้มครองเด็กหญิงคนนี้

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image