รองปลัดยธ.โฟกัส รก.เจ้าอาวาสธรรมกายไม่สั่งยุติสงฆ์ขวางการปฏิบัติตามกฎหมาย-ขัดกฎ มส.

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษกกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีวัดพระธรรมกายว่า ทางหน่วยงานของรัฐกำลังดำเนินการ 3 เรื่องพร้อมกัน คือ การบังคับใช้กฎหมาย การปกครองของสงฆ์ และพระธรรมวินัย ผลการปฏิบัติที่ผ่านมาพบว่า มีหลักฐานที่จะใช้มาตรการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ขัดขวางการทำงาน ปลุกปั่น ยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย รวมทั้งมีประเด็นที่จะเสนอให้คณะสงฆ์ดำเนินมาตรการด้านการปกครองและด้านพระธรรมวินัยต่อไป

นายธวัชชัย กล่าวว่า กรณีด้านกฎหมาย ยังคงการควบคุมพื้นที่อย่างเข้มงวดต่อไป และปรับการปฏิบัติไปตามสถานการณ์ เช่น การที่เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีมีประกาศไม่ให้พระสงฆ์มาชุมนุมที่ตลาดกลางไปแล้ว และต้องให้มีการปฏิบัติที่เป็นไปตามประกาศ ส่วนกรณีที่วัดพระธรรมกายอ้างเหตุพระธัมมชโยไม่อยู่ในวัด และขัดขวางการเข้าไปปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ จึงมีข้อสังเกตว่าถ้าไม่อยู่ในวัดจริง จะขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปในวัดทำไม และเหตุผลใดจึงต้องขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายไม่ให้เข้าไปในวัด ทราบว่าเจ้าหน้าที่ได้มีการบันทึกข้อมูลผู้ขัดขวางการปฏิบัติงานทั้งที่เป็นพระและประชาชนทั่วไปไว้แล้ว คงจะต้องดำเนินการทั้งทางกฎหมายและธรรมวินัยต่อไป

นายธวัชชัย กล่าวต่อว่า สำหรับเมื่อวานนี้(3มี.ค.)มีการตั้งข้อสังเกตเรื่องการทำหน้าที่ของผู้รักษาการเจ้าอาวาสและพระสังฆาธิการของวัดพระธรรมกาย ได้ทำหน้าที่ตามกฎหมายคณะสงฆ์และกฎมหาเถรสมาคมแล้วหรือไม่ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีรายงานว่าผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเจ้าอาวาสเพื่อยุติการกระทำของพระสงฆ์และการใช้พื้นที่วัดขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง นอกจากนั้นพระสังฆาธิการระดับอื่นๆของวัดไม่ได้ทำหน้าที่ในลักษณะดังกล่าวเช่นเดียวกัน จึงเป็นที่สงสัยของสังคมว่าการปกครองของคณะสงฆ์วัดพระธรรมกายมีสภาพที่แท้จริงเป็นอย่างไร เพราะกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 24 พ.ศ2541 หมวด4 จริยาของพระสังฆาธิการ ข้อ 44 ที่ว่าพระสังฆาธิการต้องเอื้อเฟื้อต่อกฎหมาย ข้อ 45 พระสังฆาธิการต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่สั่งโดยชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือแม้แต่ข้อ 46 ที่ว่าพระสังฆาธิการต้องตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังมิให้เกิดความเสียหายแก่การคณะสงฆ์และการพระศาสนา และห้ามมิให้ละทิ้งหน้าที่ในทางที่ไม่สมควร จึงมีคำถามว่าการปฏิบัติหน้าที่ชอบด้วยกฎมหาเถรสมาคมหรือไม่ ถ้าไม่ชอบด้วยกฎต้องแก้ไขอย่างไร เรื่องนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้รับไปพิจารณาแล้ว ซึ่งคงต้องหารือกับเจ้าคณะผู้ปกครองระดับสูงด้วย และขอเรียนว่ากฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 24 ถ้าถูกนำมาใช้ตามเจตนารมณ์จะช่วยคลี่คลายปัญหาที่กำลังเป็นอยู่ได้เป็นอย่างดีเพราะได้บัญญัติอำนาจหน้าที่ที่มาที่ไปของพระสังฆาธิการไว้ด้วยแล้ว

นายธวัชชัย กล่าวอีกว่า ส่วนด้านพระธรรมวินัย ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษและสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รวบรวมข้อมูลหลักฐานการกระทำที่อาจคาบเกี่ยวกับการล่วงละเมิดพระธรรมวินัยเรื่องเดียวกันหรือหลายเรื่องอยู่เป็นประจำบ่อยครั้ง และเป็นการกระทำความผิดซ้ำๆกันหลายครั้ง ปัจจุบันมีข้อมูลปรากฏอยู่เกี่ยวกับพฤติกรรมของพระสงฆ์หลายรูปรวมทั้งพระธัมมชโยด้วย ทราบมาว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกำลังดำเนินการร่วมกับคณะสงฆ์ฝ่ายปกครองระดับสูงต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image