เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 14 มีนาคม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ร.ต.อ.ธันว์ธวัช อนุรักษ์นิยม พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม (กก.5 บก.ป.) นำตัว นาย กรกนก วรัญญสาทิต อายุ 22 ปี, นายเดชาธร หรือไบร์ท มูลมณี อายุ 20 ปี ลูกพ.ต.ท.นายหนึ่ง, ส.ต.ชรินทร แก่นสาร อายุ 20 ปี, นายญาณวัฒน์ ทิพย์เที่ยงแท้ อายุ 19 ปี, นายเรวัติ วงศ์ขยาย อายุ 20 ปี, นายกฤตนันท์ เนียมเงิน อายุ 20 ปี, นายเศรษฐา อุปถัมภ์ อายุ 26 ปี, นาย ธีราพัฒน์ โพธิ์สุทธิ์ อายุ 19 ปี, นายธีรธานนท์ ทัพนาค อายุ 20 ปี, นายภาคิน เสือนาค อายุ 18 ปีเศษ, น.ส.ณชพัฒน์ พิกุลทอง อายุ 20 ปี, นายศุภสิทธิ์ ดีท้วม อายุ 20 ปี, นายอธิบดี กุญแจทอง อายุ 21 ปี, นายชินกิตติ์ อรรถวรรธน อายุ 21 ปี และ น.ส.มาริสา เงินทอง อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นชาว จ.เพชรบุรี และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้ต้องหาที่ 1-15 ที่ร่วมกันก่อเหตุใช้ไขควงแทงศีรษะนายธีรพงศ์ หรือ ปอนด์ ฐิตะฐาน อายุ 24 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตเพชรบุรี เสียชีวิต มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 14-25 มีนาคมนี้ เนื่องจากต้องสอบสวนปากคำพยานอีก 15 ปาก และรอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร, ผลตรวจพิสูจน์ของกลางทางคดี, ผลการตรวจสอบผลการชันสูตรบาดแผลและผลการชันสูตรพลิกศพ
โดยพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมดด้วย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง การกระทำของกลุ่มผู้ต้องหาไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง หากได้รับการปล่อยชั่วคราวเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ประกอบกับพนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ แจ้งเหตุว่ามีกลุ่มบุคคลไปข่มขู่พยานทางคดีด้วย
ต่อมาในช่วงเย็นญาติของนายเดชาธร หรือไบร์ท ผู้ต้องหาที่ 2 ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์7แสนบาทขอปล่อยชั่วคราว
กระทั่งเวลาศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าพฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง อุกอาจ ไม่เกรงตัวกฎหมาย โดยผู้ต้องหานี้บุกรุกเข้าไปในเคหะสถาน และใช้อาวุธทำร้ายผู้เสียชีวิต อีกทั้งในชั้นสอบสวนผู้ต้องรับว่า เป็นคนใช้อาวุธแทงทำร้ายจนถึงแก่ความตาย ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง
ส่วนผู้ต้องหาอื่นๆอีก 14 คนญาติได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว โดยศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ต้องหาทั้ง14คน ประกันตัวโดยตีราคาประกันคนละ 7 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไข ห้ามไปข่มขู่พยาน และไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานในคดี
ภายหลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวเดชาธร ผู้ต้องหาที่ 2 ไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชนอีก1คน ตำรวจนำไปฝากขังที่ศาลเยาวชนจังหวัดเพชรบุรี โดยศาลอนุญาตให้ประกันตัวไป
