ความคืบหน้ากรณี น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ชาวพม่า แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง หลังถูกคนขับรถแท็กซี่ทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิด เหตุเกิดวันที่ 1 เมษายน บริเวณถนนเทียมร่วมมิตร (รฟม.ตัดใหม่) เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนขอศาลอนุมัติหมายจับนายคมสรรณ์ โตทิม อายุ 34 ปี ชาว จ.เลย ผู้ต้องหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย
ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 3 เมษายน แหล่งข่าวชุดสืบสวนเปิดเผยว่า หลังจากที่นายคมสรรณ์ก่อเหตุได้กลับเข้าไปยังบ้านเช่าย่านลาดพร้าวเพื่อเก็บข้าวของหลบหนี โดยชุดสืบสวนพบเบาะแสล่าสุดของนายคมสรรณ์ป้วนเปี้ยนอยู่ในพื้นที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ มีพยานหลายปากให้การยืนยันว่านายคมสรรณ์นั่งรถโดยสารมาลงใน อ.หล่มสัก ขณะเดียวกันชุดสืบสวนบางส่วนเดินทางไปตรวจสอบบ้านพักของนายคมสรรณ์ที่แจ้งไว้ตามที่อยู่ในบัตรประชาชน พบว่าบ้านหลังดังกล่าวอยู่ในเขตเมือง จ.เลย เป็นบ้านร้างไม่มีผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้ชุดสืบสวนเพิ่งได้เบาะแสเพิ่มเติมว่าหลังจากที่นายคมสรรณ์เดินทางมาที่ อ.หล่มสัก จากนั้นได้เดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางไปยัง จ.มุกดาหาร ชุดสืบสวนประสานงานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) โดยส่งหมายจับของนายคมสรรณ์เพื่อนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์การตรวจสอบการเข้าออกของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อขึ้นบัญชีเฝ้าดู หากมีการเดินทางออกไปยัง สปป.ลาว ให้ควบคุมตัวตามหมายจับ
พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น.เปิดเผยว่า ชุดสืบสวนกำลังติดตามผู้ก่อเหตุอย่างกระชั้นชิด คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้ หรือภายในคืนนี้
