ศาลจำคุกอ่วมสูงสุด13ปี แก๊งค้ามนุษย์ “นาตารี อาบอบนวด” ปรับ6.5แสน

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 19 เมษายน ที่ห้องพิจารณา 713 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีค้ามนุษย์ อาบอบนวด “นาตารี” คม.67/2559 ที่ พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีค้ามนุษย์ 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายพงษ์อนัน หรือบอล คณะเขตต์ นายสมประสงค์ หรือจี สร้อยจิต นายภานรินทร์ หาญพัฒนาเจริญ นายอะตาผะ แลแม นายลาภชูลาภ เงินเต็มเปี่ยม และบริษัท พี.เอส.เอส. เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด โดยนายสมประสงค์ สร้อยจิต กรรมการผู้จัดการ เป็นจำเลยที่ 1-6 ฐานร่วมกันค้ามนุษย์ฯ โดยจำเลยทั้งหมดเป็นผู้ร่วมกันจัดให้มีการค้าประเวณีโดยมีหน้าที่ต่างกัน ที่สถานบริการอาบอบนวด นาตารี จำเลยทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

คดีนี้อัยการโจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 10 เมษายน-7 มิถุนายน 2559 เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1-5 และ จำเลยที่ 6 ที่เป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย กับพวกอีก 7 คนที่ยังหลบหนี สมคบกันค้ามนุษย์โดยวางแผน แบ่งหน้าที่กันทำเพื่อเป็นธุระจัดหารับไว้ซึ่งเด็กหญิงอายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี เป็นชาวต่างด้าว 8 ราย เพื่อค้าประเวณีที่สถานอาบ อบนวด นาตารี โดย นาตารี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ย่านห้วยขวาง ที่เปิดขึ้นเป็นสถานอาบอบนวด และค้าประเวณี, ร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี และเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น, ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารโดยการค้าประเวณี บริการทางเพศ, ร่วมกันเป็นผู้ดูแล หรือผู้จัดการการค้าประเวณี หรือสถานการค้าประเวณี หรือเป็นผู้ควบคุมผู้กระทำการค้าประเวณีในสถานบริการ, ร่วมกันซ่อนเร้นบุคคลต่างด้าวโดยให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ โดยร่วมกันรับบุคคลต่างด้าวเข้าทำงานขายบริการทางเพศถ่ายภาพเปลือยหน้าอก น.ส.แก้ม ผู้เสียหายที่ 10 และ ครอบครองภาพเปลือยหน้าอกอันเป็นสื่อลามก อนาจารเด็กไว้เพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยเข้าจับกุมและส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย เหตุเกิดที่แขวงและเขตดินแดง กทม. ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 มาตรา 4,6,9,10,52 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 มาตรา 4,9,11 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282,283 ทวิ, 287/1 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 64 พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2551 มาตรา 27,54 พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509 มาตรา 3,4,26 พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 45,50,144,146 พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 26,78

โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัว นายพงษ์อนัน นายสมประสงค์ นายภานรินทร์ นายอะตาผะ จำเลยที่ 1-4 มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่วน นายลาภชูลาภ จำเลยที่ 5 ได้รับการประกันตัวระหว่างสู้คดี เดินทางมาฟังคำพิพากษา นอกจากนี้ยังมีทนายความและบุคคลใกล้ชิดจำนวนหนึ่งมารอฟังคำพิพากษาด้วย

Advertisement

โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้จำเลยทั้งหมดให้การสารภาพว่ากระทำความผิดจริงตามฟ้อง จึงพิพากษาว่าการกระทำของจำเลยที่ 1-6 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คน ขึ้นไป แล้วกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ซึ่งได้กระทำแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี จำคุกจำเลยที่ 1-5 คนละ 4 ปี ปรับเงินจำเลยที่ 6 จำนวน 100,000 บาท ฐานร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ซึ่งได้กระทำแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี ,ฐานเป็นธุระจัดหาซึ่งบุคคลเพื่อใช้ค้าประเวณี แม้จะยินยอมก็ตาม, ฐานเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหาล่อไปเพื่อค้าประเวณี แม้จะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ,ฐานเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา พาไปเพื่อการอนาจาร ซึ่งเป็นการกระทำแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี เป็นความผิดกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักสุดฐานร่วมกันตั้งแต่ 3 คน ขึ้นไป กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ซึ่งได้กระทำแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี จำคุกจำเลยที่ 1-5 คนละ 10 ปี และปรับเงินจำเลยที่ 6 จำนวน 1,200,000 บาท

ส่วนฐานร่วมกันพาบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม จำคุกจำเลยที่ 1-5 คนละ 3 ปี ปรับเงินจำเลยที่ 6 จำนวน 10,000 บาท ฐานร่วมกันเป็นผู้ดูแล ผู้จัดการกิจการค้าประเวณี หรือสถานการค้าประเวณี หรือเป็นผู้ควบคุม ผู้ทำการค้าประเวณี ในสถานการค้าประเวณี ที่มีบุคคลอายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ,ฐานร่วมกันใช้หรือลงความเห็นยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร และกระทำการประการใดอันเป็นการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักสุดฐานร่วมกันเป็นผู้ดูแล ผู้จัดการกิจการค้าประเวณี หรือสถานการค้าประเวณี ซึ่งมีบุคคลอายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ทำการค้าประเวณี จำคุกจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 คนละ 6 ปี

ฐานร่วมกันให้ที่พักอาศัย ซ่อนเร้น เพื่อให้บุคคลต่างด้าวพ้นจากการจับกุม จำคุกจำเลยที่ 1 และ จำเลยที่ 2 คนละ 1 ปี ฐานร่วมกันนำคนต่างด้าวซึ่งมีใบอนุญาตทำงานผิดประเภท ปรับจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 คนละ 10,000 บาท ฐานร่วมกันเปิดสถานบริการอาบอบนวดโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 คนละ 6 ปี ฐานร่วมกันจ้างบุคคลอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นลูกจ้างโดยไม่แจ้งการจ้างต่อพนักงานแรงงานภายใน 15 วัน ปรับจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 คนละ 20,000 บาท ฐานร่วมกันเป็นนายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงานในสถานบริการตามกฎหมาย จำคุกจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 คนละ 6 เดือน และฐานครอบครองสิ่งลามกอนาจารเด็ก เพื่อประโยชน์ในทางเพศแก่ตนเองหรือผู้อื่น จำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 1 ปี

Advertisement

รวมจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 25 ปี 12 เดือน ปรับ 30,000 บาท รวมจำคุกจำเลยที่ 2 เป็นเวลา 24 ปี 12 เดือน ปรับ 30,000 บาท รวมจำคุกจำเลยที่ 3-5 คนละ 17 ปี และปรับจำเลยที่ 6 รวม 1,310,000 บาท

ทั้งนี้จำเลยทั้งหมดให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 11 ปี 24 เดือน ปรับ 15,000 บาท คงจำคุกจำเลยที่ 2 เป็นเวลา 11 ปี 18 เดือน ปรับ 15,000 บาท คงจำคุกจำเลยที่ 3-5 คนละ 8 ปี 6 เดือน และปรับจำเลยที่ 6 รวม 655,000 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ต้องหาคนสำคัญคดีนี้ที่ศาลอาญาออกหมายจับไว้เเต่ยังไม่ได้ตัวมาดำเนินคดีคือนายประเสริฐ หรือ โกลัก สุขขี เจ้าของนาตารี อาบอบนวด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image