เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ต.ท.ชัยรัตน์ อินทร์เทศ สว.(สอบสวน)สน.วิภาวดี รับแจ้งเหตุรถตู้โดยสารชนทัายรถดูดฝุ่นของทางด่วน มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย เหตุเกิดบนทางด่วนยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์) ขาเข้า แขวงและเขตดินแดง จึงพร้อมเจ้าหน้าที่จร.สน.วิภาวดี จร.สน.ดินแดง กู้ภัยทางด่วน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งพร้อมอุปกรณ์ตัดถ่างเข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณระยะที่ 104 sp 1/3 ก่อนทางลงถนนดินแดงประมาณ 500 เมตร ที่เลนขวาสุด พบรถดูดฝุ่นของทางด่วนยี่ห้ออีซูซุ สีเขียว ทะเบียน 99-7089 กรุงเทพมหานคร สภาพถูกชนท้ายเสียหายเล็กน้อย ใกล้กันพบรถตู้โดยสารยี่ห้อโตโยต้า คอมมิวเตอร์ สีขาว ทะเบียน 15-8852 กรุงเทพมหานคร สาย ต.155-16 วิ่งระหว่างอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-นวนคร(ทางด่วน) สภาพด้านหน้าและด้านข้างฝั่งขวาพังยับเยิน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย คนหนึ่งติดอยู่ภายในรถคือคนขับ และผู้โดยสารนอนอยู่บนพื้นถนน เจ้าหน้าที่ใช้อุปกรณ์เครื่องตัดถ่างนำร่างออกมา ทราบชื่อคนขับ นายนิพนธ์ ศรีจันทร์อิน อายุ 31 ปี มีบาดแผลขนาดใหญ่บริเวณศีรษะและกระดูกหักหลายจุด และน.ส.จุรีรัตน์ จงจิตรกลาง อายุ 33 ปี มีบาดแผลบริเวณศีรษะ และใบหน้าผิดรูป นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย เป็นผู้โดยสาร นำส่งรพ.เปาโล เมโมเรียล พหลโยธิน
จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่ามีรถกระบะขับอยู่เลนกลาง โดยมีรถตู้โดยสารคันดังกล่าวขับตามมาแล้วเบี่ยงออกเลนขวาขึ้นไป แต่ขณะนั้นมีรถดูดฝุ่นสีเขียวที่วิ่งช้ามากเนื่องจากอยู่ระหว่างการทำความสะอาดพื้นถนน พอดีทำให้รถตู้พุ่งชนท้ายอย่างแรงจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว
พ.ต.ท.ชัยรัตน์ กล่าวว่า จากการสอบสวนพยานเป็นคนขับรถกระบะขายผลไม้ทราบว่าก่อนเกิดเหตุขับอยู่เลนกลางมีรถกระบะขายกับข้าว และรถตู้โดยสาร ขับตามรถกระบะมา จากนั้นรถกระบะขายกับข้าวได้แซงขวาขึ้นไปด้วยความเร็วประมาณ130กิโลเมตรต่อชั่วโมง และรถตู้โดยสารแซงตามขึ้นไปเช่นเดียวกัน ขณะนั้นมีรถดูดฝุ่นวิ่งทำความสะอาดอยู่ทางรถกระบะขายกับข้าวที่วิ่งแซงรถกระบะขายผลไม้พ้นไปแล้วจึงหักซ้ายหลบเข้ามาเลนกลาง แต่รถตู้ที่ขับตามรถกระบะขายกับข้าวมาอย่างกระชั้นชิดนั้นหลบไม่ทันจึงทำให้ชนกับรถดูดฝุ่นเข้าอย่างจัง คนขับเสียชีวิตคาที่ ส่วนผู้โดยสารที่เสียชีวิตนั่งอยู่ติดกับประตูเลื่อนได้กระเด็นออกจากตัวรถไปเสียชีวิตบนถนน
พ.ต.ท.ชัยรัตน์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามต้องตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของทางด่วนอีกครั้ง และต้องเรียกคนขับรถดูดฝุ่น และผู้เกี่ยวข้องของทางด่วนมาสอบสวนดูว่าขณะรถดูดฝุ่นปฎิบัติหน้าที่นั้นมีข้อปฏิบัติในการรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้ถนนอย่างไร และขณะนั้นได้ทำตามข้อปฏิบัติดังกล่าวหรือไม่ต่อไป
