40เหยื่อแห่แจ้งจับตุ๋นลงทุนเพชรพลอย สูญ1.4พันล้าน ชวนเชื่อปันผลก้อนโต 80%

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 พฤษภาคม ที่กองบังคับการตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นายอนันต์ชัย ไชยเดช อายุ 57 ปี ในฐานะทนายความ พร้อมผู้เสียหายกว่า 40 คน เข้าพบ พ.ต.ท.สุณัฐพล นิรมิตศุภเชษฎ์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.5 บก.ปอศ. เพื่อแจ้งความดำเนินคดี นางกมลนันช์ (สงวนนามสกุล) ฐานฉ้อโกงประชาชน ภายหลังหลอกผู้เสียหายร่วมลงทุนและระดมทุนขายเพชรขายพลอย โดยอ้างว่าจะแบ่งปันผลกำไรให้กับสมาชิก

นายอนันต์ชัยเปิดเผยว่า มีผู้เสียหายถูกหลอกให้ลงทุนด้วยเงินจำนวนหนึ่ง แล้วจะได้เงินปันผล 80% ของเงินต้น เป็นเงินนอกระบบที่มีผลตอบแทนสูง โดยเฉพาะกลุ่มที่ลงทุนกลุ่มนี้มีผู้เสียหายกว่า 800 คน กระจายอยู่ทั่วประเทศ มูลค่าความเสียหาย 1,400 ล้านบาท และยังมีกลุ่มอื่นๆ อีก 4-5 กลุ่ม มูลค่าสูงกว่า 5,000 ล้านบาท เชื่อว่ากระบวนการลงทุนดังกล่าวทำให้เศรษฐกิจเสียหาย เพราะเป็นการนำเงินมาลงทุนนอกระบบ

นายอนันต์ชัยกล่าวต่อว่า ได้รับการประสานจากนางกมลนันช์ว่าอยากเข้ามาชี้แจงหลังมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความทั่วประเทศ จนถูกหมายเรียกจากตำรวจหลายพื้นที่ และมีผู้ไม่หวังดีข่มขู่ฆ่าเอาชีวิต คนทั่วไปอาจคิดว่าแปลกที่ตนนำตัวผู้ต้องหามาด้วย จึงขอยืนยันว่าไม่ได้รู้จักผู้ต้องหาเป็นการส่วนตัว แค่ให้เข้าชี้แจงรายละเอียดต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มผู้เสียหาย เพื่อจะได้เปิดเผยความจริงให้แก่สมาชิก

Advertisement

ด้านนางกมลนันช์เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนมีคนติดตามจำนวนมาก เนื่องจากทำอาชีพลักษณะนี้อยู่แล้ว (ธุรกิจขายตรง) แต่ไม่เคยถูกใครโกง จนกระทั่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ได้รับการชักชวนจากเพื่อนชื่อโกโก้ ให้รู้จักกับ น.ส.ไพรัตน์ (สงวนนามสกุล) ชาว จ.จันทบุรี อ้างว่าทำธุรกิจระดมทุนขายเพชรพลอย จะให้ผลประโยชน์ 80% และสมาชิกจะได้ 10% จึงตัดสินใจเป็นแม่ข่ายชักชวนคนอื่นมาร่วมลงทุน ช่วงแรกๆ น.ส.ไพรัตน์จ่ายเงินปันผลให้จริงจนเกิดเป็นความเชื่อมั่นและศรัทธา แต่ต่อมาไม่จ่ายเงินปันผล ก่อนจะหนีหายไปและไม่สามารถติดต่อได้อีก

นางกมลนันช์กล่าวอีกว่า ยอมรับว่าทำผิดจริง แต่ไม่ได้ตั้งใจจะหลอกลวงผู้อื่น เพียงแค่ชักชวนมาร่วมลงทุนเพราะอยากให้คนอื่นได้เงินปันผลเหมือนที่เคยได้ ส่วนเรื่องที่ถูกข่มขู่นั้น คือมีสมาชิกรายหนึ่งข่มขู่ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ทำนองว่าถ้าไม่โอนเงินทุนคืนถึงตายได้ อย่างไรก็ตามทราบว่า น.ส.ไพรัตน์ยังไม่หยุดการระดมทุน ยังมีการเปิดระดมอีกกลุ่ม คาดว่ามีมูลค่า 500 ล้านบาท โดยอ้างว่ามีนายทุนขายเพชรพลอย ที่ จ.จันทบุรี ชักชวนให้สมาชิกซื้อเพชรกับพลอยแล้วจะได้ผลประโยชน์ ในอัตราร้อยละ 50-80% จึงไม่อยากให้มีใครหลงเชื่ออีก

ขณะที่ พ.ต.ท.สุณัฐพลเปิดเผยว่า เบื้องต้นอยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้เสียหายและนางกมลนันช์ จากนั้นจะรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบว่านางกมลนันช์กระทำความผิดจริงจะดำเนินคดีทันที และออกหมายเรียกให้ น.ส.ไพรัตน์ เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาและให้ปากคำตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image