เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 มิถุนายน ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษกกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีการยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)2คน ว่า เนื่องจากการดำเนินการของคณะกรรมการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญตามที่ได้ดำเนินการก่อนหน้านี้ถูกต้องจนครบถ้วนแล้วเสร็จ แต่มีปัญหาว่าคณะกรรมการคัดเลือกมีวาระ1ปี บางคนหมดวาระไปก่อนที่กระบวนการสรรหาจะแล้วเสร็จ คือ ช่วงที่จะมีการลงมติผลรับรองที่จะส่งให้ปลัดกระทรวงยุติธรรม จึงทำเรื่องนี้ส่งให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมไปดำเนินการแต่งตั้งดังกล่าว
นายธวัชชัย กล่าวต่อว่า แต่หลังจากนั้น ได้ตรวจกันเองพบว่าหากเป็นเช่นนี้จะไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จึงทำหนังสือหารือไปยังสำนักข้าราชการพลเรือน (กพ.) ก่อนจะได้รับคำตอบว่าหากทำต่อไปจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงมีคำแนะนำว่า ให้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว และสรรหาใหม่อีกครั้ง ในวันนี้ตนในฐานะประธานคณะกรรมการคัดเลือกข้าราชการฯได้เร่งจัดประชุมคณะกรรมการตามที่ คณะอนุกรรมการสามัญประจำกระทรวง(อ.ก.พ.กระทรวง) เห็นชอบคณะกรรมการฯชุดใหม่แล้ว ส่วนการกำหนดคุณสมบัติการเข้าสู่ตำแหน่ง การเสนอวิสัยทัศน์ และการให้คะแนนประเภทต่างๆก็มีมติให้ใช้เหมือนเดิมที่เคยกำหนดไว้เมื่อครั้งที่แล้ว โดยเราจะเปิดรับสมัครในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ โดยใช้ระยะเวลา 7 วัน และในวันที่ 18 กรกฎาคมนี้ จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการสัมภาษณ์ทันที คาดว่าจะสามารถเสนอชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือกให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมลงนามแต่งตั้งรองอธิบดีคนใหม่ได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า การลงนามในคำสั่งเดิมก่อนหน้านี้ โดยที่ตัวเองรู้อยู่แล้วว่าจะหมดวาระ ถือเป็นความบกพร่องของคณะกรรมการหรือไม่ นายธวัชชัย กล่าวว่า เราไม่ทราบ ถ้าเรารู้เราก็คงไม่ทำอยู่แล้ว เนื่องจากคณะกรรมการไม่ได้หมดวาระพร้อมกัน เช่น ตนเพิ่งถูกเลือกตั้งโดยกระทรวงแต่งตั้งไป โดยความเห็นชอบของ ก.พ. แต่มีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิถูกแต่งตั้งมาก่อนแล้ว จึงทำให้หมดวาระไปพร้อมกัน แต่ยืนยันว่ากรณีดังกล่าวทราบจากการที่เราตรวจพบกันเอง โดยไม่มีใครมาร้องเรียน
เมื่อถามว่า รองอธิบดีดีเอสไอทั้ง 2 คน หากไม่ได้รับความเป็นธรรมสามารถฟ้องร้องได้หรือไม่ นายธวัชชัย กล่าวว่า เราได้หารือกันแล้ว โดยเชิญพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร และพ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีดีเอสไอ มาหารือเพื่อทำความเข้าใจแล้ว การพูดคุยเป็นไปด้วยความราบรื่นและเข้าใจกันดีว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะไม่ได้เกิดจากเจตนาที่จะทำให้มันเกิด แต่เกิดจากความผิดพลาดของเราเอง แต่ถ้าทั้ง2คนอยากจะฟ้องร้องก็สามารถทำได้ ทั้งนี้ระหว่างที่ตำแหน่งรองอธิบดีดีเอสไอว่างอยู่นั้น อธิบดีดีเอสไอสามารถตั้งใครขึ้นมาเป็นรักษาการแทนได้ แต่เราให้คำแนะนำไปว่าอย่าเพิ่งเลย เพราะทางคณะกรรมการได้เร่งดำเนินการสรรหาใหม่แล้ว
รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวด้วยว่า พ.ต.ท.กรวัชร์ และพ.ต.ท.ประวุธ สามารถเข้ามารับการคัดเลือกได้ใหม่ แต่ไม่สามารถรับรองได้ว่าจะได้กลับไปดำรงตำแหน่งดังกล่าวได้อีกหรือไม่ เพราะเป็นการพิจารณาของคณะกรรมการ เนื่องจากคณะกรรมการต้องมีความเป็นอิสระ และไม่มีระบบฝากหรืออะไรอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่มีการมองว่าอาจเกิดจากกลุ่มบริษัทที่เกี่ยวกับคดีรถยนต์หรูหลบเลี่ยงภาษีที่พยายามจะทำยื่นเรื่องขอเปลี่ยนตัวรองอธิบดีดีเอสไอนั้น ไม่มีหรอก เพราะกรณีที่เกิดขึ้นเกิดจากการค้นพบของเราเอง เป็นความคลาดเคลื่อนในกระบวนการ ทั้งนี้ในคณะกรรมการชุดใหม่นี้ เราได้ตรวจสอบกันเองแล้วว่ามีใครใกล้หมดวาระอีกหรือไม่ และถือเป็นครั้งแรกของกระทรวงยุติธรรมที่เกิดปัญหานี้ขึ้น
เมื่อถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นสังคมมองว่าอาจเกิดขึ้นจากปัญหาการเมืองภายในของดีเอสไอหรือไม่ นายธวัชชัย กล่าวว่า ไม่มี เอาเป็นว่าตั้งแต่รองอธิบดีดีเอสไอ2คนนี้ทำงานมา ไม่มีอะไรบกพร่อง รวมถึงในอดีตด้วย แต่ที่ตนพูดอย่างนี้ก็ไม่ใช่ว่าตนจะไปการันตีอะไรเขา โดยขอให้คณะกรรมการได้ทำงานอย่างอิสระ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงสร้างคณะกรรมการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนักบริหาร ระดับต้น ในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ประกอบด้วย 1.ประธานคณะกรรมการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนักบริหาร ระดับต้น ในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ตามที่ อ.ก.พ.กระทรวงยุติธรรม เสนอ และ สำนักงาน ก.พ. เห็นชอบ 2.อ.ก.พ. กระทรวงยุติธรรมซึ่งได้รับการเลือกตั้งจากข้าราชการพลเรือน ระดับซี 10 ในครั้งนี้ คือนายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ 3.หัวหน้าส่วนราชการระดับกรมที่มีตำแหน่งว่าง 4.อ.ก.พ. ผู้ทรงคุณวุฒิ 5.ผู้แทนสำนักงาน ก.พ. 6.ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นกรรมการเลขานุการ และ 7.หัวหน้ากลุ่มสรรหา บรรจุ และแต่งตั้ง กองการเจ้าหน้าที่ สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้ช่วยเลขานุการ
