‘วิญญัติ’ร้อง อสส. เร่งคดีชุมนุม กปปส. โวยอดีต อสส.สั่งคดี 3 ปียังไม่ถึงศาล ตีกรอบ 30 วันร้อง ป.ป.ช.

‘วิญญัติ’ร้องอสส. เร่งคดีชุมนุมกปปส. โวยอดีตอสส.สั่งคดี 3 ปียังไม่ถึงศาล ตีกรอบ 30 วันร้องป.ป.ช.

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 มิถุนายน ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ ถนนเเจ้งวัฒนะ นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนและเลขาธิการสมาพันธ์นักกฏหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ (สกสส.) พร้อมทีมทนายความ เข้ายื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อทวงถามและเร่งรัดการสั่งสำนวนคดีร่วมกันเป็นกบฏของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ที่มีการเคลื่อนไหวชุมนุมทางการเมืองในช่วงปี 2556-2557 โดยมีนายพันธ์โชติ บุญศิริ ทีมโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะผู้เเทนอัยการสูงสุด เป็นผู้รับมอบหนังสือ

นายวิญญัติกล่าวว่า ในฐานะผู้กล่าวโทษเเละประชาชนผู้ติดตามคดีกบฏของกลุ่ม กปปส.เคยยื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุดไปเเล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2558 เเต่ไม่มีการเเจ้งความคืบหน้าหรือเเถลงให้ประชาชนรับทราบ เหมือนคดีอื่น อาจเป็นปัญหาความเชื่อมั่นต่อองค์กรอัยการอย่างมาก ในวันนี้จึงมาขอเร่งการพิจารณาสั่งคดีให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว โดยตนตั้งข้อสังเกต ดังนี้ 1.นับเเต่วันที่นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อดีต อสส.สั่งฟ้องคดีกับผู้ต้องหารวม 58 คน ในข้อหากบฏ ผ่านมาเป็นเวลา 3 ปี คดีไม่มีความคืบหน้า การพิจารณาสั่งคดีช้าผิดปกติ

2.การสั่งฟ้องผู้ต้องหา 4 ราย จากจำนวน 58 ราย ที่ยังไม่สั่งคดี อาจเป็นการเอื้อประโยชน์ทางคดีกับผู้ที่ยังไม่สั่งฟ้อง ตามที่ปรากฏว่ามีผู้ต้องหาบางคนยังไม่สั่งฟ้องไปนั่งฟังการพิจารณาคดีหลายครั้ง เเละด้วยคดีดังกล่าวมีการสืบพยานโจทก์สำคัญหลายปาก ทำให้พยานบุคคลเกิดความหวาดกลัวเกรงได้รับอันตราย เเละข้อเท็จจริงจากพยานอาจได้รับความเสียหายเเละเป็นการเข้าไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานเกินสมควร เกิดความเสียหายต่อสำนวน ผู้ต้องหาที่ยังไม่ฟ้องมีโอกาสล่วงรู้พยานหลักฐานในคดี

“3.การสอบสวนของพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องจึงไม่มีเหตุผลใดที่จะทำให้การสั่งคดีของอัยการสูงสุดชลอเวลาไว้ จนกระทั่งคดีที่ฟ้องไปก่อนจะสืบพยานเสร็จสิ้นลงเเล้ว การปฏิบัติดังกล่าวส่อเจตนาให้ล้มคดีหรือไม่ 4.การขอความเป็นธรรมของผู้ต้องหาในปี 2557 เกิดภายหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยึดอำนาจ สอดรับกับการปลดออกเเละเเต่งตั้ง อสส.หรือไม่ อาจทำให้ประชาชนคิดว่าการชุมนุมที่มีผู้ต้องหาเป็นเเกนนำ เป็นที่มาของการควบคุมบริหารราชการเเผ่นดินของ คสช. และ 5.กระบวนการที่ล่าช้าดังกล่าวอาจส่งผลต่อมาตฐานการทำงาน ความเชื่อมั่นองค์กรอัยการ” นายวิญญัติกล่าว

Advertisement

นายวิญญัติกล่าวต่อว่า จากนี้จะมาขอทราบผลการพิจารณาภายใน 30 วัน หากไม่มีความคืบหน้าหรือไม่มีการสั่งฟ้องคดีตามความเห็นของพนักงานสอบสวนเเละอัยการสูงสุดที่เคยมีคำสั่งฟ้องไปเเล้วตนจะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เเละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ไต่สวนเรื่องนี้ตามกฎหมายทันที

โดยนายพันธ์โชติกล่าวว่า หลังจากรับหนังสือเเล้ว จะนำส่งอัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการตามขั้นตอนต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image