ความคืบหน้าการตรวจสอบพบการทุจริตงบประมาณบูรณะและปฏิสังขรณ์วัดเพื่อสนับสนุนให้วัดทำโครงการต่างๆ หรือทุจริตเงินทด ภายหลังจาก พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เข้าพบ พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุด วันที่ 30 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา พ.ต.อ.วรายุทธ สุขวัฒน์ธนกุล รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เดินทางไปสอบปากคำผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชสิทธารามราชวรวิหาร
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า จากการสอบสวน ทราบว่ามีข้าราชการระดับผู้อำนวยการส่วน หนึ่งในผู้ต้องหา มีความรู้จักสนิทสนมกับพระรูปหนึ่งสมัยวัยเด็กมาติดต่อว่าจะนำเงินมาเข้าวัด จากนั้นได้ขอเลขบัญชีกับพระรูปดังกล่าว พร้อมบอกว่าหากเงินเข้าบัญชีแล้วให้ถอนออกจากบัญชีธนาคารมาให้ด้วย จากการตรวจสอบพบว่าวัดดังกล่าวได้ทอนเงินคืนให้กับนายวสวัตติ์ประมาณ 11 ล้านบาท
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีวัดบำเพ็ญเหนือย่านมีนบุรี ที่ผู้เกี่ยวกับการทุจริตมีการติดต่อขอเงินทอนคืนจากวัดอีกประมาณ 10 ล้านบาท จากจำนวน 11 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ภายในสัปดาห์หน้าทางชุดสืบสวนสอบสวน กก.1-5 บก.ปปป. จะเดินทางไปสอบสวนพระที่วัดอีกประมาณ 10 แห่ง ที่ทาง พศ.นำงบประมาณบูรณะและปฏิสังขรณ์วัดมาสนันสนุนให้วัดทำโครงการต่างๆ นอกจากนี้ยังสอบพระที่อยู่ในพื้นที่ฝั่งธนบุรีอีก 2 วัด โดยทั้ง 2 วัดเป็นวัดใหญ่ มีชื่อเสียงและงบประมาณเยอะ
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ภายหลังรับการร้องทุกข์จาก พ.ต.ท.พงศ์พรมานั้นได้สอบปากคำพระในวัดที่ตกเป็นเหยื่อแล้วทั้งหมด 6 วัด จากจำนวนประมาณ 30 วัด มีผู้ต้องหาแล้ว 10 คน และจากการสอบปากคำที่ผ่านมาพบบุคคลต้องสงสัยเพิ่มเติมอย่างน้อยอีก 2-3 คน