เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะอนุกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (อ.ก.ต.) ประชุมวาระสำคัญในการพิจารณาบัญชีรายชื่อผู้พิพากษาที่เหมาะสมและสมควรเสนอดำรงตำแหน่ง ประธานศาลอุทธรณ์ 1 ตำแหน่ง ,รองประธานศาลฎีกา 6 ตำแหน่ง และประธานแผนกคดีในศาลฎีกา 9 ตำแหน่ง และพิจารณาการสับเปลี่ยนตำแหน่งชั้น4 ระดับผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกาด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับตำแหน่ง ประธานศาลอุทธรณ์ ที่ถือว่ามีอาวุโสรองจากประธานศาลฎีกานั้น หลังจากก่อนหน้านี้นายศิริชัย วัฒนโยธิน ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานศาลอุทธรณ์ ตามบัญชีมีการเสนอชื่อ นายธนฤกษ์ นิติเศรณี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานศาลฎีกาลำดับที่ 4 สมควรขึ้นดำรงตำแหน่งดังกล่าวตามอาวุโส โดยการพิจารณาคุณสมบัติประธานศาลอุทธรณ์ในวันนี้ไม่พบปัญหาหรือติดขัดคุณสมบัติเเต่อย่างใด คาดว่าบัญชีที่ผ่านการพิจารณาของ อ.ก.ต.ในวันนี้ จะผ่านการพิจารณาเห็นชอบของ ก.ต.อีกครั้ง โดยไม่น่าจะมีปัญหา ภายหลังจากก่อนหน้านี้ นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกาลำดับที่1 ผ่านมติการแต่งตั้งจะขึ้นดำรงตำแหน่งแล้ว ขณะที่นายชาติชาย อัครวิบูลย์ และนางพฤษภา พนมยันตร์ รองประธานศาลฎีกาลำดับที่ 2 และ 3 จะพ้นจากตำแหน่งในวันที่ 30 กันยายนนี้ เนื่องจากครบอายุเกษียณราชการ 65 ปี
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับนายธนฤกษ์ นั้น ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานศาลฎีกา ปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าของสำนวนคดีระบายข้าวจีทูจี ที่มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับอดีตนักการเมืองและเอกชนรวม 28 ราย ตกเป็นจำเลยในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และยังร่วมเป็นองค์คณะคดีโครงการรับจำนำข้าวที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีตกเป็นจำเลย และเป็นหนึ่งในองค์คณะคดีสลายม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยปี 2551 ที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี กับพวกตกเป็นจำเลยด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า ส่วนตำแหน่งรองประธานศาลฎีกานั้น มีการขยับตำแหน่งตามลำดับอาวุโส จากประธานแผนกคดีในศาลฎีกาขึ้นมา โดยมีการเสนอบัญชีรายชื่อ ดังนี้ นางอุบลรัตน์ ลุยวิกกัย ประธานแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลฎีกา สมควรเป็นรองประธานศาลฎีกาลำดับที่ 1 , นายธนสิทธิ์ นิลกำแหง ประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา สมควรเป็นรองประธานศาลฎีกา ลำดับที่ 2 , นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานแผนกคดีภาษีอากรในศาลฎีกา สมควรเป็นรองประธานศาลฎีกาลำดับที่ 3 , นายโสภณ โรจน์อนนท์ ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา สมควรเป็นรองประธานศาลฎีกา ลำดับที่ 4 , นายวิชัย เอื้ออังคณากุล ประธานแผนกคดีแรงงานในศาลฎีกา สมควรเป็นรองประธานศาลฎีกาลำดับที่ 5 และนายพรเทพ อัมพรกลิ่นแก้ว ประธานแผนกคดีผู้บริโภคในศาลฎีกา สมควรเป็นรองประธานศาลฎีกา ลำดับที่ 6
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับผู้ถูกเสนอชื่อสมควรเป็นรองประธานศาลฎีกาลำดับที่ 1-4 นั้น ปัจจุบันแต่ละคนร่วมเป็นองค์คณะผู้พิพากษาบางคดีในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย อาทิ คดีระบายข้าวจีทูจี ที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับอดีตนักการเมืองและเอกชนรวม 28 ราย ตกเป็นจำเลย คดีโครงการจำนำข้าวที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตกเป็นจำเลย และคดีสลายม็อบพันธมิตรฯปี 2551 ที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี กับพวก ตกเป็นจำเลย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับตำแหน่งประธานแผนกคดีในศาลฎีกา ที่ถือว่ามีอาวุโสรองจากตำแหน่งรองประธานศาลฎีกานั้น มีการสับเปลี่ยนตำแหน่ง ที่เสนอบัญชีรายชื่อตามอาวุโส ดังนี้ นายพิศล พิรุณ ประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลฎีกา สมควรเสนอเป็น ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา นายนิพนธ์ ใจสำราญ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา สมควรเสนอเป็น ประธานแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลฎีกา นายสุนทร ทรงฤกษ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา สมควรเสนอเป็น ประธานแผนกคดีภาษีอากรในศาลฎีกา นายสู่บุญ วุฒิวงศ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา สมควรเสนอเป็น ประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา นายสุรพันธุ์ ละอองมณี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา สมควรเสนอเป็น ประธานแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าในศาลฎีกา
นายทวี ประจวบลาภ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา สมควรเสนอเป็น ประธานแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจในศาลฎีกา นายชัยยุทธ ศรีจำนงค์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา สมควรเสนอเป็น ประธานแผนกคดีผู้บริโภคในศาลฎีกา นายธีระพงศ์ จิระภาค ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา สมควรเสนอเป็น ประธานแผนกคดีแรงงานในศาลฎีกา น.ส.บุญมี ฐิตะศิริ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา สมควรเสนอเป็น ประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลฎีกา
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับนายพิศล พิรุณ ที่มีการเสนอสับเปลี่ยนตำแหน่งสมควรเสนอเป็น ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา ปัจจุบันร่วมเป็นองค์คณะคดีจำนำข้าว คดีระบายข้าวจีทูจี และคดีสลายม็อบพันธมิตรฯปี 2551 ส่วนนายนิพนธ์ ใจสำราญ ซึ่งบัญชีรายชื่อสมควรเสนอเป็น ประธานแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลฎีกานั้น ปัจจุบันร่วมเป็นองค์คณะคดีสลายม็อบพันธมิตรฯปี 2551 ขณะที่นายสุนทร ทรงฤกษ์ บัญชีเสนอสมควรเป็น ประธานแผนกคดีภาษีอากรในศาลฎีกานั้น ปัจจุบันเป็นเจ้าของสำนวนคดีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตกเป็นจำเลย คดีอัยการสูงสุดฟ้องออกหนังสือเดินทาง(พาสปอร์ต)ให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยมิชอบ (คดียังรอไต่สวนพยานเดือนสิงหาคมนี้) ส่วนนายทวี ประจวบลาภ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา สมควรเสนอเป็น ประธานแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจในศาลฎีกานั้น อดีตเคยได้ดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ช่วงปี 2554-2556 ช่วงนั้นต้องรับมือคดีคำร้องขอถอนประกันแกนนำ นปช.เสื้อแดง
รายงานข่าวแจ้งว่า อย่างไรก็ดีการเสนอบัญชีดังกล่าว รวมทั้งการสับเปลี่ยนตำแหน่งระดับผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกานั้นจะต้องรอการประชุม ก.ต.ชุดใหญ่ มีมติชี้ขาดอีกครั้ง มีรายงานว่า ก.ต.ชุดใหญ่ 15 คน กำหนดประชุมกันในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ หากที่ประชุม ก.ต.มีมติเห็นชอบ การแต่งตั้งดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม เป็นต้นไป
