เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป) พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร สว.กก.2 บก.ป. พร้อมชุดปฏิบัติการ กก.2 บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา และทหาร จับกุมนายทรงศักดิ์ หรือบังซุบ ชุมพร อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/6 หมู่ 4 ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา ข้อหามีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน, ทำ ประกอบซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะอาวุธปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซองยาว ยี่ห้อเรมิงตัน สีดำ ด้ามไม้ ทะเบียน ลข 3/7083 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนลูกซองยาว ยี่ห้อวินเชสเตอร์ สีดำ ด้ามไม้ ทะเบียน กท 224810 (แยกชิ้นส่วน) จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนลูกซองยาว ยี่ห้อแชมเปี้ยน สีขาว ด้ามไม้ ทะเบียน กท 135729 (แยกชิ้นส่วน) พร้อมซอง จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนอัดลม ไม่มียี่ห้อ สีดำ ด้ามไม้ จำนวน 1 กระบอก หน้าไม้ ไม่มี่ห้อ สีดำ ด้ามไม้ จำนวน 1 อัน ซองบรรจุกระสุนปืน จำนวน 3 ซอง เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 9 นัด เครื่องกระสุนปืน ขนาด .22 จำนวน 6 นัด เครื่องกระสุนปืน ขนาด .22 แม็กนั่ม จำนวน 5 นัด เครื่องกระสุนปืน ขนาด เบอร์ 1 จำนวน 1 กล่อง ลำกล้องปืนลูกซองยาว จำนวน 1 อัน ลำกล้องปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. จำนวน 2 อัน ชุดตอกตัวเลข ที่ใช้งานและ จำนวน 13 ชุด ประกับด้ามปืน จำนวน 6 ชิ้น และอุปกรณ์ในการซ่อมดัดแปลงอาวุธปืนอื่นๆ โดยจับกุมได้ที่ชุมชนหัวแหลม ที่บ้านเลขที่ 126 หมู่ 4 ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
สืบเนื่องจากชุดจับกุมทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเปิดเป็นร้านรับซ่อม,ปรับแต่งดัดแปลงอาวุธปืน โดยมักจะมีลูกค้าเป็นวัยรุ่นในพื้นที่แวะเวียนมาใช้บริการเป็นประจำ จึงวางแผนเข้าจับกุม จากการตรวจค้นพบนายทรงศักดิ์หรือบังซุบอยู่ภายบ้าน ตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวพบอาวุธปืน เครื่องกระสุน และอุปกรณ์ในการซ่อมดัดแปลงอาวุธปืนเป็นจำนวน พร้อมนำตัวผู้ต้องหารายนี้มาสอบสวนที่ สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา
สอบสวนนายทรงศักดิ์ หรือบังซุบ รับสารภาพว่า เป็นคนรับซ่อมปืนต่างๆ โดยไม่ได้มีใบอนุญาต โดยเรียนวิธีการซ่อมปืนมาจากลุงที่ตายเป็นแล้ว โดยบ้านหลังที่ถูกจับกุมอดีตเคยเปิดเป็นร้านซ่อมปืนอย่างถูกกฎหมายมากว่า 30 ปี ซึ่งลุงของตนเป็นเจ้าของ ต่อมาลุงได้เสียชีวีตได้ยกให้เป็นของป้าที่เป็นภรรยาของลุง แต่ป้าก็มาเสียชีวิตเมื่อต้นปี หลังจากนั้นตนก็ได้ยึดอาชีพซ่อมปืนมาตั้งแต่เดือนเมษายน จนกระทั่งมาถูกจับกุมเนื่องจากใบอนุญาตหมดอายุและไม่ได้ไปต่อใบอนุญาต ส่วนลูกค้ามักจะเป็นคนในพื้นที่หรือบางครั้งก็มีมาจากตามจังหวัดใกล้เคียงที่รู้จักมาก่อน
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำของกลางทั้งหมดมาตรวจสอบที่ สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา พร้อมทั้งขยายผลในการจับกุมครั้งนี้เพื่อตรวจสอบว่ามีปืนเถื่อนซุกซ่อนหรือเคยนำมาใช้บริการหรือไม่ซึ่งหากพบว่ามีจะทำการจับกุมต่อไป ส่วนผู้ต้องหาส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา ดำเนินคดีต่อไป
