เดือดร้อน !! กลุ่มเจ้าของรถหรู ร้องยธ.ปลดล็อคอายัด พ้อ ‘ดีเอสไอ’ ทำรถราคาตก ด้อยค่า ยันซื้อถูกต้อง

เดือดร้อน !! กลุ่มเจ้าของรถหรู ร้อง ยธ.ช่วยให้ดีเอสไอ ปลดล็อคอายัดกว่า 80 คัน พ้อรถราตก ด้อยค่า ยันซื้อด้วยความบริสุทธิ์ใจ

เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม บริเวณด้านหน้าศูนย์บริการร่วม กระทรวงยุติธรรม นายวรณะ สติประเสริฐ พร้อมด้วย นายโอภาส เฉิดพันธุ์ และกลุ่มตัวแทนผู้เสียหายซื้อรถยนต์หรู จาก บริษัท นิชคาร์ กรุ๊ป จำกัด เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษกกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ถอนอายัด หลังมีความเดือดร้อนจำนวนมาก

นายโอภาส เฉิดพันธ์ อายุ 39 ปี ผู้เสียหายซื้อรถหรู เปิดเผยว่า ได้ซื้อรถหรูยี่ห้อลัมโบร์กินี รุ่นอเวนทาดอร์ ราคา 40 ล้านบาท จากบริษัท นิชคาร์ กรุ๊ป จำกัด ใกล้ผ่อนชำระหมดแล้ว โดยใช้มาแล้ว 4 ปี ซึ่งตั้งใจว่าเมื่อผ่อนชำระหมดจะนำรถมาขายต่อเพื่อซื้อคันใหม่ เสมือนเป็นการลงทุนอย่างหนึ่งในรูปแบบซื้อมาขายไป แต่ตอนนี้มันกลายเป็นทรัพย์สินด้อยค่า ทำให้รถของตัวเองไปอยู่ในกลุ่มที่จะถูกอายัดจากดีเอสไอในรอบที่ 2 หรือ 3 นี้

“ทำให้ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ ตอนนี้ไม่ใช่แค่เดือดร้อน แต่ทำให้ตนได้รับความเสียหายไม่สามารถดำเนินการทางธุรกรรมรถได้ ส่วนตัวที่ตัดสินใจซื้อรถจาก บริษัท นิชคาร์ กรุ๊ป จำกัด เนื่องจากมองว่า แม้กลุ่มเกรย์มาเก็ตมีราคาถูกกว่า 10 ล้านบาทต่อคัน แต่คิดว่าราคาที่แพงกว่าน่าจะไม่มีปัญหา”นายโอภาส กล่าว

Advertisement

นายโอภาส กล่าวอีกว่า การที่ดีเอสไอแถลงข่าวไปก่อนหน้านี้ว่าจะอายัดรถเพิ่มรอบ 2 จำนวนกว่า 100 คัน ทำให้เกิดความเดือดร้อน โดยสิ่งที่มาร้องเรียนในวันนี้เพื่อขอว่าให้ทำอย่างไรก็ได้ให้เรื่องจบโดยเร็ว หวังให้ทางดีเอสไอเร่งดำเนินการกับบริษัทหรือผู้เกี่ยวข้องให้เสร็จเรียบร้อย ไม่ใช่ว่าให้เรามาเซ็นชื่อห้ามขายรถ และถ้าจะให้ไปตามเรื่องกับบริษัทขายรถคงไม่ใช่เรื่อง ยืนยันพร้อมเป็นผู้เสียหายให้ความร่วมมือกับดีเอสไอ

ขณะที่ตัวแทนกลุ่มผู้ซื้อรถหรู กล่าวว่า วันนี้เดินทางมายื่นหนังสื่อถึง นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ดำเนินการช่วยเหลือปลดล็อคการยึดอายัดรถหรูจำนวน 80 คัน ซึ่งมีผู้เสียหายประมาณ 20 ราย หลังถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ อายัดรถไว้ตรวจสอบทั้งหมด ทำให้เกิดความเสียหายและเดือดร้อน เนื่องจากรถที่ซื้อยังคงต้องผ่อนชำระอยู่งวดละหลายแสนบาท โดยไม่สามารถจะนำมาใช้หรือซื้อขายได้ตามปกติ

“พวกผมซื้อรถมาอย่างถูกต้องด้วยความบริสุทธิ์ใจ จึงอยากให้ช่วยปลดอายัดรถเหล่านี้ เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ส่วนใครทำผิดกฎหมายก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย เนื่องจากรถที่ซื้อมาจากโขว์รูมของบริษัท นิชคาร์  กรุ๊ป จำกัด ที่มีการจัดจำหน่ายอย่างถูกต้องแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งทางผู้เสียหายที่รวมตัวกันร้องเรียนในวันนี้ส่วนใหญ่ซื้อรถหรูยี่ห้อแลมโบกีนีทั้งสิ้น” ตัวแทนกลุ่มผู้ซื้อรถหรู กล่าว

Advertisement

ตัวแทนกลุ่มผู้ซื้อรถหรู กล่าวอีกว่า พวกเราไม่ทราบว่าบริษัทที่จัดจำหน่ายรถหรูนำเข้ามาในประเทศไทยถูกต้องหรือไม่  แต่รู้เพียงว่าบริษัทนี้เป็นผู้นำเข้ารายเดียวที่ถูกต้องตามกฎหมาย ยืนยันว่าการซื้อรถซื้อมาในราคาเต็ม  มีการเสียภาษีอย่างถูกต้อง ส่วนเรื่องการเสียภาษียอมรับว่าทราบว่ามีมูลค่ามากว่าประเทศผู้ผลิตยนต์สูงมาก สามารถนำเงินไปซื้อรถในต่างประเทศได้ 3-4 คัน นอกจากนี้ภายหลังการซื้อขายรถยังพบว่าบางคันไม่สามารถต่อทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกได้  ถือว่าเดือดร้อนมาก จึงไม่ทราบเหมือนกันว่าการนำเข้ารถเกิดจากความผิดพลาดของผู้นำเข้าหรือกรมศุลกากรกันแน่

“ส่วนรถของตัวเองขณะนี้ยังไม่ได้โดนอายัด แต่คาดว่าอนาคตคงถูกอายัดแน่ ทั้งที่เราก็ซื้อรถมาโดยสุจริต จึงต้องการขอให้กระทรวงยุติธรรมช่วยประสานให้ดีเอสไอช่วยผ่อนปรนการอายัดรถจำนวนดังกล่าวด้วย ส่วนที่พวกตนไปซื้อรถได้ไปสอบถามกับบริษัทจำหน่ายแล้วแต่ยังไม่มีการชี้แจงอะไรมา เพียงตอบกับว่ากำลังต่อติดประสานกับดีเอสไออยู่แค่นั้น”ตัวแทนผู้เสียหายรถหรู กล่าว

 

นายธวัชชัย กล่าวว่า รถยนต์ที่ถูกดีเอสไอยึดและอายัดมีหลายคดี เช่น รถนำเข้า รถจดประกอบ ฯลฯ โดยผู้ซื้อถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์และร้องเรียนให้ปล่อยรถ หากมีความเสียหายก็พร้อมรับผิดชอบแต่ต้องดูข้อกฎหมายเพราะรถยนต์ถือได้ว่าเป็นวัตถุพยานในคดี รวมทั้ง ทราบว่า ดีเอสไอ ประสานอัยการสูงสุดเพื่อขอข้อมูลรถ คาดว่าภายในส.ค.นี้จะแจ้งข้อกล่าวหาอีก 30 คดี แต่ต้องรอการประเมินราคาจาก กรมศุลกากร  อย่างไรก็ตาม จะต้องคุยรายละเอียดกับ กระทรวงยุติธรรม ดีเอสไอ และ กรมศุลกากร เพื่อให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image