เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 9 สิงหาคม พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. พล.ต.ต.สุภธัช คำดี รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย ผบก.ตม.2 ตรวจท่าอากาศยานดอนเมือง น.ท.สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง ผู้แทนสายการบินต่างๆ และหน่วยงานที่ปฏิบัติงานในท่าอากาศยานดอนเมือง ประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาผู้โดยสารหนาแน่นแบบบูรณาการทั้งระบบ
พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวว่า ตามที่มีกระแสข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ถึงปัญหาผู้โดยสารหนาแน่นที่ท่าอากาศยานดอนเมือง จึงได้เดินทางมายังท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นการเร่งด่วน เบื้องต้นพบว่าในห้วงปีที่ผ่านมาท่าอากาศยานดอนเมืองมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นระดับ 40,000 คนต่อวัน เพิ่มจาก ปี 2555 กว่า400 % เกินขีดความสามารถทั้งทางด้านกายภาพและบุคลากร ทั้งพื้นที่ห้องโถงผู้โดยสารขาเข้าและขาออก จำนวนช่องตรวจและเจ้าหน้าที่ ตม. ขยายตัวไม่ทันกับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ในวันที่ 4 สิงหาคมต่อเนื่องวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา พบว่ามีเที่ยวบินล่าช้าสะสมกว่า10เที่ยวบิน ทำให้ผู้โดยสารเข้ารับการตรวจกว่า4,000คนพร้อมกัน ในขณะที่พื้นที่ห้องโถงผู้โดยสารขาเข้ามีพื้นที่ประมาณ 800ตารางเมตร รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ1,000คน ทำให้มีความหนาแน่นบริเวณหน้าช่องตรวจมากกว่าปกติ เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก
พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวว่า วันนี้ผู้โดยสารมากกว่าพื้นที่ของทางการท่าจำนวนมาก เที่ยวบินที่เข้าสนามบินจำนวน44เที่ยวบินต่อชั่วโมง ขณะนี้เพิ่มไป55เที่ยวบิน หมายความว่าจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นตามไปด้วย จำนวนเจ้าหน้าที่ต้องมีการเพิ่มการแก้ปัญหา วันนี้ได้มีการพูดคุยเบื้องต้นได้เพิ่มเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมาให้ทางท่าอากาศยานดอนเมืองจำนวน 100 คน และทางการท่าฯจะจัดเอาท์ซอร์ซเพิ่มเติมให้ในการดูแลผู้โดยสาร จัดระเบียบผู้โดยสาร นอกจากนั้นภายใน 2 สัปดาห์จะมีการเพิ่มช่องตรวจอีก14 ช่องตรวจ จาก 21 ช่อง เป็น35ช่อง เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวต่อว่า สำหรับการแก้ปัญหาระยะยาวนั้น มีการดำเนินการในเรื่องบัตร ตม.6 จะดำเนินการยกเลิกในส่วนของคนไทยเพื่อลดระยะเวลาในการกรอกข้อมูล ขณะนี้มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของใบ ตม.6 ที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ เป็นรูปแบบใหม่มีข้อมูลที่ทางกระทรวงการท่องเที่ยวต้องการเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาสู่ประเทศไทย มีการดำเนินการขออนุมัติแก้พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง มาตรา18 เกี่ยวกับการตรวจแบบฟอร์มที่กฎกระทรวงกำหนดยกเลิกใบตม.6คนไทย ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ เพื่อลดความล่าช้าในการกรอกข้อมูล สำหรับในส่วนของผลกระทบในการยกเลิกใบตม.6 นั้น ส่วนของคนไทยทางเจ้าหน้าที่มีข้อมูลทะเบียนราษฎร์ทะเบียนรถหรือข้อมูลหนังสือเดินทางได้ไม่ยาก และมีการดำเนินการให้ชาวต่างชาติสามารถใช้ช่องตรวจอัตโนมัติได้ โดยเริ่มต้นที่ชาวต่างชาติประเทศสิงคโปร์ เริ่มปลายเดือนนี้เป็นการลดพนักงานของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและระบายผู้โดยสารได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังมีการเปิดรับสมัครบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นตำรวจตรวจคนเข้าเมืองในส่วนของท่าอากาศยานอีก300คน ภายในสิ้นปีคิดว่าคงจะได้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเข้ามาปฏิบัติงาน และอีก1ปีถนัดไปจะมีระบบตรวจคนเข้าเมืองใหม่คือ “ไบโอแมทริกซ์”เข้ามาตรวจ มีความแม่นยำและเที่ยงตรง อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่ดีที่มีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น และเป็นการเพิ่มอย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็แล้วแต่จะต้องแก้ปัญหาให้พึงพอใจกับผู้ที่เข้ามาท่องเที่ยวในเรื่องของการให้บริการ แต่ต้องไม่ละเลยเรื่องของความมั่นคง ทางเจ้าหน้าที่พยายามตรวจสแกนกลุ่มเป้าหมายเพื่อไม่ให้กระทบความมั่นคงและมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น
พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวอีกว่า สำหรับผู้โดยสารที่ติดแบล็คลิสต์นั้น ทางเจ้าหน้าที่ค่อนข้างจะเคลียร์ในเรื่องนี้เพราะเรามีระบบตรวจสอบคัดกรอกผู้โดยสารล่วงหน้า จะตรวจสอบตั้งแต่ผู้โดยสารยังอยู่ที่สนามบินต้นทางที่เช็กอิน จะตรวจสอบตั้งแต่ต้นแล้ว หากมีแบล็คลิสต์ เจ้าหน้าที่สายการบินจะไม่ออกบัตรผู้โดยสารให้ ไม่มีโอกาสขึ้นเครื่องตั้งแต่ต้นทาง ในกรณีปกติการตรวจสอบขั้นตอนของ ตม. ต่อคนใช้เวลาคนละ 45 วินาทีไม่เกิน 1 นาทีต่อคน แต่เมื่อผู้โดยสารลงมาจำนวนมากหลายพันคน แน่นอนว่าต้องมีการอคิว อย่างไรก็ตามด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยแต่ละวันเพิ่มขึ้นทุกวันนั้น การเดินทางจะเข้าทุกสนามบิน โดยสนามบินหลักๆคือสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ สนามบินนานาชาติดอนเมือง สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ และสนามบินนานาชาติภูเก็ต ได้แก้ปัญหาทุกสนามบิน ให้การบริการเกิดความคล่องตัวและมีความมั่นคงอยู่ด้วย
