จากกรณีนายกัมปนาท อิ่มแสงจันทร์ ผู้ตรวจการท่า ฝ่ายบริหารงานสนับสนุนท่าเรือกรุงเทพ คลองเตย พร้อมกลุ่มพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ (สมัยนั้น) เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีมีการทุจริตการเบิกจ่ายค่าตอบแทนล่วงเวลาแบบเหมาจ่ายแก่พนักงาน มูลค่าความเสียหายประมาณ 3,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2556
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.อ.พินิจ ตั้งสกุล ผบ.สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า คดีนี้ได้รับการร้องเรียนจากเจ้าหน้าที่การท่าเรือตั้งแต่ปี 2556-2557 หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนพบว่ามีการกระทำผิด พนักงานมีพฤติกรรมเบิกจ่ายขอล่วงเวลา (โอที) ที่ไม่เป็นไปตามจริง ในช่วงระหว่างปี 2545-2555 ขณะนี้พนักงานสอบสวนดีเอสไอได้รวบรวมพยานหลักฐานและสรุปสำนวนส่งให้กับ ป.ป.ช.ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมาแล้ว
“คดีดังกล่าวมีมูลค่าความเสียหายกว่า 3,300 ล้านบาท เกี่ยวข้องกับบุคคลกว่า 1,200 คน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของการท่าเรือกรุงเทพทั้งหมด จึงต้องใช้ระยะเวลาในการสืบสวนสอบสวนจนแล้วเสร็จ ซึ่งมีเอกสารที่เกี่ยวข้องกว่า 4 แสน 2 หมื่นแผ่น ขณะนี้มีผู้ที่ถูกฟ้องไปยัง ป.ป.ช.แล้วกว่า 560 ราย ประกอบด้วย ผู้ช่วยผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง 1 นาย ผู้อำนวยการกอง 9 นาย ผู้อำนวยการสำนัก 1 นาย นอกนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ” พ.อ.พินิจกล่าว
พ.อ.พินิจกล่าวว่า สำหรับลักษณะการกระทำความผิดนั้นจะเป็นการเขียนข้อความในเอกสารเบิกค่าโอทีว่าได้มีการปฏิบัติงาน แต่ความจริงแล้วบุคคลเหล่านั้นไม่ได้มีการทำงานล่วงเวลาจริงแต่อย่างใด ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างความเสียหายอย่างมาก
