วันที่ 21 สิงหาคม 2560 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พ.ต.ท.กฤช เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา พนักงานสอบสวนกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ยื่นคำร้องฝากขังนายวัฒนา เมืองสุข อายุ 60 ปี แกนนำพรรคเพื่อไทย ผู้ต้องหาฐานกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม-1 กันยายนนี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบปากคำพยานอีก 5 ปาก และเสนอสำนวนการสอบสวนให้ผู้บังคับบัญชาระดับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพิจารณาสั่งคดี กรณีโพสต์เรื่องหมุดคณะราษฎร
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีเกี่ยวกับความมั่นคง เป็นที่สนใจของประชาชน มีอัตราโทษอย่างสูงเกิน 3 ปี และผู้ต้องหามีพฤติการณ์กระทำความผิดในลักษณะเดียวกันซ้ำหลายครั้งตลอดมาจนถึงปัจจุบัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 15.40 น. ขณะอยู่ระหว่างการพิจารณาคำร้องฝากขังและคำร้องคัดค้านฝากขังของผู้ต้องหาอยู่นั้น ปรากฏว่านายวัฒนาถูกศาลตั้งสำนวนกล่าวหาคดีละเมิดอำนาจศาล กรณีประพฤติตนไม่เรียบร้อยและไม่เหมาะสมบริเวณศาล กรณีนายวัฒนาเฟซบุ๊กไลฟ์ถ่ายภาพบรรยากาศบริเวณห้องชั้น 2 ศาลอาญา ขณะนั่งรอพิจารณาคำร้องขอฝากขัง ซึ่งไลฟ์มีความยาวประมาณ 5 นาที
จากนั้นเวลา 16.00 น. ศาลได้พิจารณาคำคัดค้านของนายวัฒนาที่พนักงานสอบสวน ปอท.ยื่นฝากขังครั้งแรกในวันนี้แล้ว มีคำสั่งยกคำคัดค้านของนายวัฒนา โดยศาลอนุญาตให้ฝากขังนายวัฒนาได้ตามคำร้องของพนักงานสอบสวน ปอท. เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม-1 กันยายน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัวนายวัฒนาจากห้องเวรชี้ ชั้น 1 ศาลอาญา ที่พิจารณาคำร้องฝากขัง ขึ้นมายังห้องพิจารณา 812 เพื่อให้ศาลไต่สวนกรณีนายวัฒนาเป็นผู้ถูกกล่าวหาคดีละเมิดอำนาจศาล จากการประพฤติตนไม่เรียบร้อยบริเวณศาล กรณีที่ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายทอดสดเฟซบุ๊กไลฟ์โพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ความยาวประมาณ 5 นาที ระหว่างนั่งรอพนักงานสอบสวน ปอท.ยื่นคำร้องฝากขังที่ห้องงานรับฟ้องฝากขัง ชั้น 2 โดยปกติศาลมีข้อกำหนดห้ามบุคคลทำการถ่ายภาพภายในอาคารศาลเผยแพร่อยู่แล้ว
เวลา 16.20 น. ศาลมีคำสั่งว่า สอบถามนายวัฒนาผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ยอมรับว่าได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพ ต่อมาได้มีการเผยแพร่ลงในสังคมออนไลน์ ศาลเห็นว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำไปโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงเป็นการประพฤติตนไม่เหมาะสมและไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล อันเป็นการละเมิดอำนาจศาลตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 30, 31 และประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ศาลจึงให้จำคุก 1 เดือน และปรับ 500 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี และให้ผู้ถูกกล่าวหาลบโพสต์ในเฟซบุ๊กดังกล่าวด้วย
ภายหลังศาลมีคำสั่งแล้ว นายวัฒนาได้ชำระค่าปรับ 500 บาท จากนั้นมารอฟังคำสั่งการประกันตัวในชั้นฝากขัง
เวลา 16.40 น. ศาลอาญาพิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์ของนายวัฒนาที่ขอปล่อยชั่วคราวแล้ว จึงมีคำสั่งให้ปล่อยตัวนายวัฒนา ผู้ต้องหาคดีปลุกปั่นและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ในชั้นฝากขังนี้ โดยตีราคาประกัน 200,000 บาท และมิได้กำหนดเงื่อนไขการประกันตัวแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการตัดสินข้อกล่าวหานายวัฒนาฐานละเมิดอำนาจศาลจากการเฟซบุ๊กไลฟ์บริเวณศาลโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ถือเป็นคดีแรกที่เคยมีการกล่าวหาและลงโทษผู้ที่กระทำ หลังจากปัจจุบันสื่อโซเชียลมีเดียได้รับความแพร่หลาย
