วันนี้(25ส.ค.) เมื่อเวลา00.30น. ที่ศปก.ศาลฏีกา อาคารเอ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รองผบก.ภ.1 พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.ส.4 พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร รองผบก.น.2 และ พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ รองผบก.สปพ เดินทางตรวจความเรียบร้อย บริเวณโดยรอบศาลฏีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำหน่งทางการเมือง และตรวจความเรียบร้อยการดูแลรักษาความปลอดภัยภายในศปก.ศาลฏีกา โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค8 และภาค9 จำนวน 24 กองร้อย และตำรวจจราจร 80 นาย โดยจัดกำลังอยู่บริเวณหน้าศาลฏีกา และบริเวณโดยรอบของอาคารที่ทำการศาล ซึ่งจะมีมาตราการเข้มข้น 100% ในเวลา 04.00 น. ( 25 ส.ค. ) ซึ่งจะคัดกรองบุคคลและรถยนต์ที่จะเข้าออกภายในอาคาร ซึ่งจะต้องได้รับอนุญาตจากศาลเท่านั้น
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า หลังจาก 04.00 น.ไปแล้ว ห้ามบุคคลภายนอกหรือประชาชนเดินทางมาปักหลักบริเวณหน้าศาลฏีกา และโดยรอบพื้นที่ควบคุมของศาลและรอบต่อเด็ดขาด ซึ่งจะไปอยู่ตรงไหนก็ได้ที่ไม่ลุกล้ำหรือขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน และหากยังฝ่าฝืนก็จำเป็นจะต้องบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งได้เตรียมรถควบคุมผู้ต้องหาจำนวน 20 คันไว้หากจำเป็นต้องใช้กฏหมาย ส่วนการดูแลความปลอดภัยนั้นได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆจำนวน 90 ตัว กล้องเคลื่อนที่ซึ่งจะอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 120 ตัว ซึ่งในเวลาประมาณ 09.00 น. ก็จะมีการตัดสัญญาณโทรศัพท์โดยรอบพื้นที่ด้วย ตอนนี้เป็นห่วงเรื่องการจราจรมากที่สุดแต่ก็ได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเพิ่มขึ้นอีก 80 นายเพื่ออำนวยการจรจราจรไม่ให้เกิดปัญหากระทบต่อประชาชนทั่วไป
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้การดูแลความปลอดภัยยังมีการตั้งจุดคัดกรองซึ่งจะเป็นการตรวจอาวุธ และสิ่งผิดกฏหมายทั่วไป โดยจะมีการตั้งในเขตที่ศาลหวงห้าม และรอบบริเวณที่ศาลหวงห้าม ทั้งนี้ทั้งนั้นหากการพิจารณาคดีเสร็จสิ้นลง แต่ยังมีการชุมนุมยืดเยื้อและเข้าหลักกฏหมายก็จะดำเนินการโดยทันที