เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 29 สิงหาคม ที่เรือนจำกลางคลองเปรม แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. นางปอยใจระพี เตริยาภิรมย์ ภรรยา บุตรชาย 2 คน และน้องชายของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.กระทรวงพาณิชย์ ผู้ต้องขังคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งพิพากษา จำคุกเป็นเวลา 42 ปี พร้อมด้วยนายนรินทร์ สมนึก ทนายความ มาติดต่อเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์เพื่อทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายบุญทรงอีกครั้ง หลังจากเข้าเยี่ยมพูดคุยกับนายบุญทรงไปเมื่อวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยใช้เวลาในการเข้าเยี่ยมร่วม 2 ชั่วโมง เนื่องจากในช่วงระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม ถึงวันที่ 4 กันยายน ทางกรมราชฑัณฑ์เปิดโอกาสให้ญาติสามารถเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังแบบใกล้ชิดได้ โดยญาติสามารถเข้าพบผู้ต้องขังได้นานกว่าการเยี่ยมแบบปกติ
นายนรินทร์กล่าวว่า จากการเข้าเยี่ยมนายบุญทรงในวันนี้พบว่า ยังคงมีอาการเครียดและวิตกกังวลยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้วถือว่าดีขึ้นกว่าก่อน มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสมากขึ้น ส่วนเรื่องการยื่นขอประกันตัวอีกครั้งนั้น อยู่ระหว่างการเตรียมร่างหลักการเหตุผลในการขอประกันตัว จะต้องมีการพิจารณากลั่นกรองในการให้เหตุผลต่อศาลที่ดีที่สุด จึงจำเป็นต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ ขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จดี แต่ยืนยันว่าไม่ได้ติดปัญหาเรื่องการเตรียมหลักทรัพย์แน่นอน แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดในส่วนนี้ คาดว่าน่าจะมีการยื่นขอประกันอีกครั้งภายในสัปดาห์หน้า ขณะที่ในส่วนของนายบุญทรงไม่ได้เร่งรัดเรื่องนี้มากนักและให้ตนเป็นผู้ตัดสินใจ แต่กำชับว่าขอให้ทำให้ดีที่สุดก็พอ และรายงานความคืบหน้าข่าวคราวให้ได้รับทราบอยู่เสมอ ช่วงนี้ตนจะพยายามเดินทางมาเข้าเยี่ยมนายบุญทรงให้ได้มากที่สุด
นายนรินทร์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในส่วนการที่นางปอยใจระพี ภรรยาของนายบุญทรง ยื่นฟ้องกรมบังคับคดี กรมการค้าต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์ ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง จากกรณีที่ภรรยาของนายบุญทรงถูกอายัดบัญชีทางการเงิน เป็นบัญชีที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับนายบุญทรงนั้น ทางด้านนายบุญทรงมีความประสงค์ให้นางปอยใจระพีไปถอนฟ้องเรื่องดังกล่าว เนื่องจากไม่ต้องการให้ภรรยาตกเป็นเป้า และขอความร่วมมือสื่อมวลชนอย่าไปยุ่งเกี่ยวหรือรบกวนนางปอยใจระพีมากนัก ส่วนกำหนดการที่จะเดินทางไปยื่นถอนฟ้องนั้นจะเร่งดำเนินการในวันที่ 30 สิงหาคม นอกจากนี้ในส่วนกรณีที่ ป.ป.ช.ตรวจสอบการทุจริตการขายข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ล็อตที่ 2 อีก 8 สัญญา ปริมาณ 14 ล้านตันอีกนั้น ในส่วนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยหารือกับนายบุญทรง เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนของการไต่สวน
นายนรินทร์กล่าวอีกว่า ในส่วนของการเข้าพบนายบุญทรงของภรรยาและครอบครัวนั้น ไม่ได้พูดคุยหรือฝากอะไรเป็นพิเศษ จะมีก็เพียงแค่เรื่องสุขภาพที่ทางครอบครัวเป็นห่วงนายบุญทรง หลังจากเข้าเยี่ยมเสร็จแล้วนั้น นายบุญทรงจะเดินทางไปพบแพทย์ของโรงพยาบาลภายในเรือนจำอีกครั้ง เนื่องจากยังมีอาการเครียด วิตกกังวล จนทำให้มีความดันขึ้น รวมถึงตัวนายบุญทรงยังมีโรคประจำตัวหลายโรค อาทิ ความดัน ไซนัส ภูมิแพ้
