เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 15 กันยายน ที่ห้องประชุม ชั้น 3 สน.บางบอน พ.ต.อ.ณรัช มูลศาสตรสาทร ผกก.สน.บางบอน พร้อมนายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ หรือ “เสี่ยโป้ อานนท์” อายุ 25 ปี ร่วมกันแถลงความคืบหน้ากรณี นายอภิรักษ์ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บางบอน แจ้งจับชายอ้างชื่อ ผู้กองอาร์ต สังกัดฝ่ายสืบสวน สน.บางบอน พาพวกชักปืนจ่อหัวจับกุมผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและเรียกสินบนภายในร้านอาหารบ้านรถบางบอน ถนนเอกชัย แขวงและเขตบางบอน กทม. เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยเสี่ยโป้ ยืนยันจะดำเนินคดีกับผู้กองอาร์ตอย่างถึงที่สุดตามที่เคยนำเสนอข่าวไปจนเป็นประเด็นให้ประชาชนสนใจและติดตามกันอย่างต่อเนื่อง
นายอภิรักษ์กล่าวว่า ตนเดินทางมาวันนี้เพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าเป็นการเข้าใจผิดกัน เรื่องที่ผู้กองอาร์ต บอกตนเกี่ยวกับเงิน 100,000 บาทนั้น ทีแรกตนคิดเอาเองว่าเป็นการเรียกรับสินบน แต่ข้อเท็จจริงคือเป็นเงินค่าประกันตัว นายวรรลภ มณีธีรพงศ์ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหารุ่นน้องตนที่ถูกจับอาวุธปืนในที่เกิดเหตุ ส่วนเรื่องอาวุธปืนที่เป็นของกลางในคดีซึ่งชุดจับกุมนำส่งเพียง 1 กระบอกนั้น ก็เพราะปืนลูกโม่ ขนาด .38 กระบอกดังกล่าวอยู่ที่ตัวนายวรรลภ แต่ปืนบาเร็ตต้า ขนาด 9 มม. ตกอยู่ที่พื้นร้านอาหาร ตอนนี้ยังไม่ทราบเป็นของใคร และนายวรรลภ ก็ไม่ได้รับว่าเป็นเจ้าของ เรื่องนี้ตนยอมรับความผิดพลาดที่ตัดสินใจเร็วเกินไปทำให้เป็นเรื่องเป็นราว และจะไม่ดำเนินคดีใดๆ กับตำรวจชุดจับกุมแล้ว จึงอยากกราบขอโทษ ผกก.สน.บางบอน และผู้กองอาร์ต รวมถึงทุกภาคส่วนที่ต้องมาได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
ด้าน พ.ต.อ.ณรัชกล่าวว่า วันนี้เรียกนายอภิรักษ์เข้ามาเพื่อเปิดโอกาสให้สอบถามทุกข้อที่เจ้าตัวสงสัย ตอนนี้ นายอภิรักษ์ ก็เข้าใจแล้ว ส่วนแรกคือวันที่เกิดเหตุชุดจับกุม นำโดย ร.ต.อ.สรวิศ พุ่มอ่ำ หรือ “ผู้กองอาร์ต” รอง สว.สส.สน.บางบอน ได้รับแจ้งจะมีการทะเลาะวิวาทขึ้นในร้านอาหารรถบ้านบางบอน จึงนำกำลังไประงับเหตุ พบพรรคพวก นายอภิรักษ์ อยู่กันเยอะจึงขอตรวจค้นและเจออาวุธปืนในตัวนายวรรลภ จำนวน 1 กระบอก อีกทั้งยังพบปืนอีก 1 กระบอก ตกที่พื้น ดังนั้นอาวุธปืนที่พนักงานสอบสวนรับไว้เป็นของกลางในคดีนี้จึงมีอยู่ 2 กระบอก ไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่ นายวรรลภ ยอมรับเป็นผู้ครอบครองแค่กระบอกเดียว ส่วนอีก 1 กระบอกเจอที่พื้นกำลังเรียกตัวเจ้าของปืนตามชื่อที่ระบุในใบอนุญาต ป.4 เข้ามาสอบสวน ว่าปืนมาตกอยู่ในที่เกิดเหตุได้อย่างไร
“สำหรับกรณีก่อนหน้านี้ที่นายอภิรักษ์จะแจ้งความว่าชุดจับกุมชักปืนขึ้นมาจ่อใส่นั้น ตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว ว่าการระงับเหตุทะเลาะวิวาทมีคู่กรณีจำนวนมาก และพบอาวุธปืนในที่เกิดเหตุด้วยนั้น ตำรวจจำเป็นต้องใช้ปืนเพื่อป้องกันตัว เรื่องนี้ตนยืนยันได้ว่ายุทธวิธีที่ตำรวจใช้เป็นยุทธวิธีที่ควรแก่เหตุการณ์ ดังนั้น หลังจากนี้หากทางฝ่ายของนายอภิรักษ์ ยังติดใจอยากเอาความ หรือสงสัยประเด็นใด ก็ขอให้เดินทางเข้าพบตนได้ที่ สน.บางบอน ตลอดเวลา” พ.ต.อ.ณรัชกล่าว