เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 กันยายน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายอนุพงษ์ ชำนาญเสือ พร้อมตัวแทนผู้เสียหาย 5 ราย เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ หลังถูกแก๊งหลอกซื้อรถติดไฟแนนซ์และเชิดรถหนีไม่ผ่อนต่อ ให้รับเป็นคดีพิเศษ มูลค่าความเสียหายกว่า 30 คัน เสียหายประมาณ 20 ล้านบาท โดยมี พ.ต.จรัล แสงหิรัญ รอง ผอ.กองบริหารคดีพิเศษ เป็นผู้รับเรื่อง
นายอนุพงษ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากช่วงประมาณเดือนธันวาคม 2559 -กุมภาพันธ์ 2560 กลุ่มคนร้ายหลอกซื้อรถติดไฟแนนซ์ที่ผ่อนชำระค่างวดไม่ไหว ด้วยการโฆษณาผ่านเฟซบุ๊กเพจหนึ่ง (รับให้คำปรึกษา รถผ่อนไม่ไหว ไม่เสียเครดิต) ตนจึงติดต่อสอบถามว่ามีรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า แต่ไม่สามารถผ่อนต่อได้ จากนั้นก็มีนายหน้าพา น.ส.นฤมล (สงวนนามสกุล) ผู้ซื้อมารับซื้อรถไป และทำสัญญาซื้อขายกัน พร้อมจ่ายเงินค่าดาวน์รถให้ตน จนกระทั่งผ่านมา 3 เดือน ไฟแนนซ์โทรศัพท์มาทวงถามไม่ได้ชำระค่างวดจึงทราบว่าถูกหลอกไม่มีการซื้อรถไปผ่อนต่อ คาดว่าน่าทำเป็นขบวนการและอาจนำรถไปขายต่อเรียบร้อยแล้ว
“กลุ่มผู้เสียหายมาทราบภายหลังว่า น.ส.นฤมลถูกจับกุมแล้วในข้อหาฉ้อโกง คดีอื่น ซึ่งเป็นคนเดียวที่ทำสัญญารับซื้อรถทั้งหมดกว่า 30 คัน แต่คดีไม่มีความคืบหน้าและรถยนต์ที่รับซื้อไปก็ยังหาไม่เจอ ทั้งนี้ ผู้เสียหายมีอยู่หลายจังหวัด อาทิ กำแพงเพชร นครสวรรค์ สุโขทัย กาญจนบุรี ชลบุรี นครราชสีมา พระนครศรีอยุธยา และส่วนใหญ่ได้เงินจากการขายต่อคันละประมาณ 5-7 หมื่น อย่างไรก็ตาม เคยร้องเรียนกองปราบ แต่กลับให้ไปแจ้งความในท้องที่เกิดเหตุและไม่เป็นผลเพราะต้องไปเอาใบรับมอบอำนาจจากไฟแนนซ์มายืนยัน แต่พวกตนติดค้างค่างวดรถกับไฟแนนซ์ทำให้ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้เลย” นายอนุพงษ์กล่าว
ด้าน พ.ต.จรัลเปิดเผยว่า ได้รับเรื่องจากผู้ร้องเรียนไว้พิจารณาก่อนส่งให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
