เลขาฯศาลยุติธรรมปลื้มยื่นฟ้องและส่งคำคู่ความโดยอี-ฟิลิ่งรุดหน้า เพิ่มอีก 14 ศาล

เมื่อวันที่ 27 กันยายน ที่ศูนย์วิทยบริการ สำนักงานศาลยุติธรรม ถ.รัชดาภิเษก นายอธิคม อินทุภูติ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมแถลงะบบการยื่นฟ้องและส่งคำคู่ความโดยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-ฟิลิ่ง(e-filing )ว่า หลังจากได้ออกข้อกำหนดของประธานศาลฎีกา และต่อมาสำนักงานศาลยุติธรรมได้ออกประกาศ กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการยื่นฟ้องทางระบบอี-ฟิลิ่ง โดยมีการนำร่องการใช้ระบบนี้ที่ศาลแพ่ง ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ และศาลแพ่งธนบุรี ได้รับการตอบรับจากคู่ความและทนายความที่เข้าใจการใช้ระบบเป็นอย่างดี สำนักงานศาลยุติธรรม จึงขยายการใช้งานระบบนี้ไปยังศาลยุติธรรมทั่วเขตกรุงเทพมหานคร และในต่างจังหวัดเพิ่มเติมอีก4 ศาล อาทิ ศาลจังหวัดมีนบุรี ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ศาลแขวงพระนครเหนือ เป็นต้น และต่อไปจะยายไปยังศาลทั่วประเทศ

นายอธิคม กล่าวอีกว่า โครงการนี้มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการปฎิบัติงาน มีโครงการใหญ่อยู่ประมาณ3 – 4โครงการ และหนึ่งในนั้นคือโครงการ การยื่นฟ้องและส่งคำคู่ความโดยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในช่วงที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร มีทนายความมาลงทะเบียนออนไลน์เพื่อใช้ระบบนี้จำนวน 739 คน และมีการยื่นฟ้องทั้งหมด 143 คดีแล้ว ระบบนี้ทนายความไม่ต้องเสียเวลามายื่นฟ้องที่ศาล โดยประหยัดและความสะดวก ระบบนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทนายความและคู่ความ หลังจากนำระบบนี้มาใช้ก็มีการประมวลผล คือระบบนี้ยังต้องปรับในการจ่ายเงิน โดยเพิ่มระบบพร้อมเพย์ มาใช้เพื่อเป็นช่องทางในการชำระค่าธรรมเนียมศาลในการยื่นฟ้องอี-ฟิลิ่งต่อไป และเพื่อให้มีช่องทางในการจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อความสะดวกรวดเร็วอีกด้วย

ด้านนายธนารักษ์ เนาวรัตน์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำสำนักประธานศาลฎีกา ในฐานะประธาน คณะทำงานระบบe-filing ได้เปิดเผยว่า ระบบนี้จัดทำขึ้นตามมาตรฐานการใช้งานในระดับสากล ทั้งในเรื่องการยืนยันตัวตน การลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ และการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ โดยคำนึงถึงหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในพ.ร.บ.ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ฯ ในระยะแรก ได้เปิดให้ทนายความสามารถยื่นฟ้องในคดีแพ่ง จำนวน 6 ประเภท ได้แก่ ซื้อขาย เช่าทรัพย์ จำนอง จำนำ ค้ำประกัน กู้ยืมเงิน เช่าซื้อ และบัตรเครดิต และสำนักงานศาลยุติธรรมมีแผนที่จะขยายการให้บริการ การฟ้องในคดีแพ่งได้ทุกประเภท รวมทั้งคดีผู้ร้องต่างๆ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image