เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย ผบก.น.1-9 ประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยช่วงเทศกาลวันลอยกระทงในวันที่ 3 พฤศจิกายน โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์กล่าวภายหลังการประชุมว่า สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยช่วงเทศกาลวันลอยกระทงในพื้นที่นครบาล จะเน้นเรื่องป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ทาง ตร.ให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรมตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคมถึงวันที่ 2 พฤศจิกายน และให้แต่ละกองบังคับการประสานกับฝ่ายทหาร เทศกิจ และประชาชนจิตอาสา ลงไปดูแลพี่น้องประชาชน โดย บช.น.จะปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมในวันที่ 31 ตุลาคม เวลา 16.00 น. ที่บริเวณใต้สะพานพระราม 8
“บช.น.มีจุดจัดงานลอยกระทงทั้งหมด 71 จุด คาดว่าประชาชนจะมาร่วมงานประมาณ 70,000 คน ส่วนจุดใหญ่ๆ จะมีทั้งหมด 3 จุด คือ เอเชียทีค จะมีประชาชนมาประมาณ 30,000 คน บริเวณสวนสาธารณะใต้สะพานพระราม 8 ประมาณ 5,000 คน และที่สระน้ำภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะมีประชาชนมาประมาณ 4,000 คน สั่งการให้แต่ละ บก.จัดตั้ง ศปก.ส่วนหน้า เพื่อดูแลประชาชน ติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรม ถ้ามีเหตุเกิดขึ้นแล้วสามารถติดตามจับกุมได้ทันท่วงที นอกจากนี้จะประสานกรมเจ้าท่าดูแลโป๊ะตามท่าเรือต่างๆ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด ต้องไม่มีเหตุการณ์ให้ผู้ที่มาร่วมลอยกระทงเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้” พล.ต.ต.ภาณุรัตน์กล่าว
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์กล่าวอีกว่า บช.น.ฝากประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนว่า ห้ามเล่นพลุ ดอกไม้เพลิง โดยเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอันตรายกับประชาชน ห้ามยิงปืนขึ้นฟ้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร และห้ามจำหน่าย ปล่อยโคมลอย ในพื้นที่ กทม.โดยเด็ดขาด พื้นที่ที่อนุญาตให้ปล่อยโคมลอยมีเฉพาะ จ.เชียงใหม่ และเชียงรายเท่านั้น เพราะเป็นประเพณีที่มีมานาน อย่างไรก็ตามฝากไปถึงผู้ปกครองที่จะพาบุตรหลานมาร่วมงาน ขอให้ติดป้ายชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าเด็ก หากเกิดพลัดหลงจะติดตามตัวได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ฝากถึงสถานประกอบการห้ามมีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปใช้บริการ และการเปิดปิดให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด
