เมื่อเวลา17.40 น. วันที่ 14 พฤศจิกายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี รรท.ผบช.ทท. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.รอง ผบช.ทท. เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ(สปพ.) และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) แถลงปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายทั่วประเทศจำนวน 43 เป้าหมาย สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 50 ราย มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อาทิ จีน ไต้หวัน มีพฤติการณ์อ้างตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อโอนเงินให้จำนวนมาก มูลค่าความเสียหายหลักร้อยล้านบาท
พล.ต.ท.สาคร กล่าวว่า สั่งการให้ปราบปรามจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พฤติการณ์ของคนร้ายจะอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ตำรวจ เจ้าหน้าที่ธนาคาร ฯลฯ บางกรณีผู้ต้องหาโทรศัพท์ไปหาเหยื่อ แล้วอ้างว่าเหยื่อทำผิดกฎหมาย ทั้งเรื่องยาเสพติด ทัวร์เถื่อน ไกด์เถื่อน พูดหวานล้อมต่างๆนานาเพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อว่ามีความผิด หลังจากนั้นจะยื่นข้อเสนอช่วยเหลือเหยื่อให้โอนเงินให้ อ้างว่าจะช่วยเหลือบ้าง ข่มขู่บ้าง อ้างว่าธนาคารจะอายัดเงินในบัญชีบ้าง ทำเป็นขบวนการ ตนยังเคยถูกผู้ต้องหาเอาชื่อ ตำแหน่ง ผบช.ทท. ไปแอบอ้างเพื่อหลอกลวงเหยื่อด้วย
ด้านพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กลุ่มขบวนการหลอกลวงดังกล่าวออกหมายจับไปทั้งสิ้น 89 หมาย มีคนไทย 18 คน ชาวจีน 9 คน ชาวไต้หวันจำนวนหนึ่ง ได้สั่งการให้สืบสวนกับกุมส่วนที่เหลือให้ได้ทั้งหมด ตำรวจมีข้อมูลอยู่แล้ว ที่ผ่านมาจับได้มากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลืออยู่ระหว่างติดตามจับกุม โดยเฉพาะหัวหน้าใหญ่ 2 ราย ที่เป็นตัวการในเครือข่ายนี้ตำรวจติดตามเบาะแสกลุ่มเหล่านี้มาโดยตลอด สิ่งเหล่านี้เป็นภัยต่อความมั่นคง ต้องบังคับใช้กฎหมายให้เต็มที่ นอกจากนี้ยังมีการประสาน ปปง. บังคับใช้กฎหมายฟอกเงิน ตรวจสอบเส้นทางการเงินและมีการอายัดบัญชีไปแล้วกว่า 189 ล้านบาท
