ร้องผบช.น.จี้คดีโจ๋16ซิ่งชนน้า กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ผ่านมา6เดือนไม่คืบ ไร้คำขอโทษ-เยียวยา

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 13 ธันวาคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) น.ส.จิดาภา สุจินันท์กุล อายุ 24 ปี เข้าพบ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล( ผบช.น.)เพื่อขอให้เร่งรัดคดีที่วัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์พุ่งชน น.ส.พรพรรณ แซ่ฉั่ว น้าสาว ขณะขี่รถจักรยานข้ามถนนไปยังฝั่งซอยเจริญกรุง 65 ได้รับบาดเจ็บสาหัส ร่างลอยกระเด็นหลุดจากรถจักรยาน ศีรษะกระแทกพื้น หมดสติ สมองช้ำและฉีกขาด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 20.30 น. ที่ผ่านมา แต่ผ่านมา 6 เดือน ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากคู่กรณี และตำรวจยังไม่ออกหมายจับผู้กระทำผิด แม้จะมีหลักฐานชัดเจนก็ตาม

น.ส.จิดาภา กล่าวว่า เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.ชาญเทพ เพื่อนำหลักฐานมอบให้ เช่น วิดีโอจากกล้องวงจรปิด ภาพนิ่ง เอกสารใบรับรองแพทย์ ใบแจ้งความลงบันทึกประจำวัน เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดคดี เนื่องจากเหตุการณ์ผ่านมา 6 เดือนแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆทั้งสิ้น รวมทั้งยังรู้สึกว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อำนวยความสะดวกเท่าที่ควร ช่วงที่เกิดเหตุหลังนำตัวน้าส่งโรงพยาบาล ตนเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา แต่ตำรวจบอกว่าลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่ได้ ทั้งที่เหตุการณ์เพิ่งผ่านไป 2 ชั่วโมง จุดเกิดเหตุยังมีกองเลือด มีพยานแวดล้อมอยู่ครบ นอกจากนี้ทางตำรวจเคยพูดกับตนว่า หากเป็นพ่อของเด็กที่ขับรถชน จะไม่ให้มาขอโทษครอบครัวตน เพราะกลัวเด็กจะโดนทำร้าย จึงรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยตนโทรศัพท์ถามความคืบหน้ากับทางตำรวจเป็นระยะ ขณะนี้ทางตำรวจ สน.ยานนาวา บอกให้รอผลการตรวจพิสูจน์จากกองบังคับการตำรวจจราจร(บก.จร.) แต่รอมาหลายเดือนแล้ว ยังไม่ได้ ซ้ำยังไม่สามารถออกหมายจับคนกระทำผิดได้

Advertisement

“ก่อนหน้านี้เป็นผู้หาหลักฐานเอง ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด ชื่อ นามสกุลผู้กระทำผิด ผ่านเฟซบุ๊ก พบว่าผู้ที่ขับรถจักรยานยนต์เป็นเยาวชน อายุ 16 ปี ขับรถซ้อน 3 ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ จากนั้นมีการเรียกมาไกล่เกลี่ยครั้งเดียว แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ อีกทั้งครอบครัวของผู้กระทำผิดยังไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น ขณะที่น้าสาวต้องเข้ารับการรักษา ผ่าตัดเปิดกระโหลก ตอนนี้นอนไม่รู้สึกตัว ไม่สามารถขยับตัวได้ มีอาการสมองช้ำ เยื่อหุ้มสมองขาด มีโรคแทรกซ้อน เสียค่ารักษาพยาบาลมากกว่า 1.9 ล้านบาท ยังไม่รวมค่าดูแล ค่ายา อีกเดือนละหลายหมื่นบาท” น.ส.จิดาภากล่าว

ด้าน พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย แต่ขอกลับไปดูรายละเอียด ตรวจสอบหลักฐานให้แน่ชัดก่อน เพราะคดีนี้เป็นคดีอุบัติเหตุ เบื้องต้นที่เห็นภาพจากวิดีโอ จุดเกิดเหตุเป็นทางร่วมทางแยก ตนจะให้ผู้เชี่ยวชาญไปตรวจสอบว่ารถจักรยานยนต์ขับมาด้วยความเร็วเท่าใด และผู้บาดเจ็บปั่นรถจักรยาน ระมัดระวังหรือไม่ หากตรวจสอบได้ว่าพนักงานสอบสวนรับเรื่องช้า ไม่อำนวยความสะดวกเรื่องสำนวน จะต้องถูกลงโทษด้านวินัยด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image