ปูพรมล้างต่างชาติอยู่เกินกำหนด-ลอบเข้าเมือง พบ’3ครูผิวสี’เล็งฟันสถาบันสอนภาษาให้ที่พักพิง

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 12 มกราคม ที่ห้องเลขที่ 286/653 ชั้น 4 อาคาร 17 คอนโดบ้านสุโขทัย ซอยรามคำแหง 30/1 ตึก 17 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมจนท.ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจ191 อรินทราช บช.ปส. ชุดสยบไพรี ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกันแถลงผลการปิดล้อมตรวจค้น 36 จุด ทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล เป็นห้องพักชาวต่างชาติผิวสีที่อยู่เกินกฎหมายกำหนด

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้มีการปิดล้อมตรวจค้นทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวม 36 จุด โดยเน้นกลุ่มคนผิวสีที่เข้ามาก่ออาชญากรรม เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งสกิมเมอร์ คนต่างชาติผิวสีที่อยู่เกินกฎหมายกำหนด ทั้งนี้อาชญากรรมต่างๆ เหล่านี้ เกิดจากกลุ่มคนผิวสีที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายไม่มีวีซ่าหรือเอกสาร หรืออยู่เกินที่กฎหมายกำหนด โดยมีการจับกุมคนผิวสีจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย ข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยสิ้นสุดการอนุญาต จับกุมชายสัญชาติแคเมอรูน 2 ราย ข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต จับกุมหญิงสัญชาติแทนซาเนีย 1 ราย

Advertisement

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า จากสถิติการปิดล้อมตรวจค้นกดดันทำให้มีผู้กระทำความผิดลดลง การดำเนินการต่างๆอย่างต่อเนื่อง มีการปิดล้อมตรวจค้นครั้งที่13 จับกุมแล้ว128ราย โดยปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่กรุงเทพฯ จำนวน 344 จุด จากสถิติจะเห็นได้ชัดว่าคนผิวสีไม่กล้ากระทำความผิด คนผิวสีที่โอเวอร์สเตย์ไม่กล้าอยู่ในเมืองไทย ฉะนั้นการปิดล้อมตรวจค้นย่านบางรักไปจนถึงในพื้นที่จ.ปทุมธานี จ.สมุทรปราการ จากทั้ง 36 จุด มีจำนวนเพียง 3 รายเท่านั้น ส่วนคนผิวสีที่มีใบอนุญาตถูกต้องเจ้าหน้าที่จะทำประวัติ ตรวจเก็บดีเอ็นเอ ลายพิมพ์นิ้วมือ ลายพิมพ์ฝ่ามือทั้ง 10 นิ้ว ไว้หมด โดยมาตรการต่อไปที่กำลังทำอยู่คือมาตรการจัดทำฐานข้อมูลคนผิวสีทั้งหมดที่ได้มาพำนักอยู่ในประเทศไทย

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ฝากไปถึงผู้อำนวยการของโรงเรียนสอนภาษาต่างๆเพราะคนผิวสี3รายที่จับกุมได้ให้การตรงกันว่าเป็นครูสอนภาษาในโรงเรียนแห่งใดแห่งหนึ่งย่านมีนบุรี บางรัก ในการรับบุคคลเข้าไปในโรงเรียนจะต้องตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร วีซ่า ใบรับรองการศึกษา เพราะบุคคลเหล่านี้ถือเป็นภัยต่อความมั่นคง นอกจากนี้จะประสานไปยังโรงเรียนต่างๆ ที่มีรายชื่อมาพูดคุยทำความเข้าใจ เพื่อไม่ให้บุคคลเหล่านี้ ใช้เป็นสถานที่บ่มเพาะหารายได้ และอาจก่อเหตุอาชญากรรมต่างๆ นอกจากนี้จะต้องลงไปตรวจสอบโรงเรียนต่างๆ ว่ามีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่ ถ้ามีส่วนรู้เห็นจะต้องรับผิดชอบฐานมีส่วนร่วมให้ที่พักพิงบุคคลที่ไม่มีเอกสารในการเข้ามาอยู่ในประเทศไทย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image