จนท.ผนึกกำลัง ตรวจน้ำอ่าง ‘โคปาคาบาน่า’ เครือเดอะลอร์ด พบหลักฐานลอบใช้น้ำบาดาล ดำเนินคดีอีกแห่ง

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 มกราคม พ.ต.อ.สุวัฒน์ อินทสิทธิ์ รอง ผบก.ปทส. พร้อมด้วยพ.ต.อ.ภาณุเดช สุขวงศ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.ท.จิรวัฒน์ ยอดกระโหม รอง ผกก.ป.สน.สุทธิสาร นางอรัญญา เฟื่องสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลรักษาการอธิบดีกรมดังกล่าว นายประโยชน์ ด่านก่อโพธิ์ ผอ.ศูนย์พิทักษ์น้ำบาดาล กรมทรัพยากรน้ำบาดาล นำหมายค้นศาลอาญารัชดาภิเษกที่ 34/2561 ลงวันที่ 26 มกราคม 2561 เข้าตรวจค้นสถานบริการอาบ อบ นวด โคปาคาบาน่า เลขที่ 55/5 ซอยอินทมระ45 แขวงและเขตดินแดง กรุงเทพฯ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ศูนย์พิทักษ์น้ำบาดาล ตำรวจ บก.ปทส. ตำรวจสน.สุทธิสาร เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตดินแดง เข้าร่วมตรวจสอบภายหลังพบข้อมูลอาจจะเป็นสถานบริการในเครือเดอะลอร์ด กรุ๊ป ของ น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ และตรวจหาการกระทำผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.อาคาร พ.ร.บ.น้ำบาดาล พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม พ.ร.บ.สาธารณสุข และ พ.ร.บ.สถานบริการ ทั้งนี้ทางทนายความและเจ้าหน้าที่ของสถานบริการดังกล่าวไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนและผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปด้านในโดยให้เหตุผลว่า สถานบริการดังกล่าวแม้จะถือว่าเป็นพื้นที่สาธารณะ แต่ตอนนี้ได้ปิดบริการลงแล้วจึงถือว่าเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ซึ่งหากผู้ใดฝ่าฝืนก็ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ทางผู้ดูแลและทนายความเดินทางมารับหมายก่อนนำตรวจสอบพื้นที่และเก็บตัวอย่างน้ำตามจุดต่างๆ ใช้เวลาตรวจค้นกว่า3ชั่วโมง

พ.ต.อ.สุวัฒน์ เปิดเผยก่อนเข้าตรวจค้นว่า วันนี้จะตรวจสอบว่ามีการใช้น้ำที่ไม่ใช่น้ำประปาหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบว่ามีการดัดแปลง ต่อเติม ตัวอาคารสถานที่ให้ผิดไปจากที่ขออนุญาตหรือไม่ โดยมีเจ้าหน้าที่อีโอดีมาร่วมตรวจด้วย โดยใช้อุปกรณ์ค้นหาระเบิดดัดแปลงตรวจสอบหาวัตุที่ต้องการในวันนี้ด้วย

ต่อมานายประโยชน์ ผอ.ศูนย์พิทักษ์น้ำบาดาล กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า วันนี้จะมีการวัดค่าการเหนี่ยวนำไฟฟ้าของตัวอย่างน้ำที่พบโดยใช้เครื่องวัดคุณภาพน้ำ EC/TDS มาตรวจวัดค่าการเหนี่ยวนำไฟฟ้าที่อยู่ในน้ำและจะต้องใกล้เคียงกับ 388 ไมโครซีเมนส์ต่อตารางเซนติเมตร ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานของน้ำประปาในวันนี้ และการเก็บตัวอย่างน้ำจากคอนโดมิเนียมฝั่งตรงข้ามวัดได้ 363 ไมโครซีเมนส์ต่อตารางเซนติเมตร คาร์แคร์ที่อยู่ใกล้เคียงวัดได้ 352 ไมโครซีเมนส์ต่อตารางเซนติเมตร ซึ่งมีค่าการเหนี่ยวนำไม่เกินค่ามาตรฐาน ส่วนในสถานบริการนั้น เก็บตัวอย่างน้ำทั้งหมด11จุด ดังนี้ 1.แท็งค์น้ำชั้นดาดฟ้า วัดได้ 392 ไมโครซีเมนส์ต่อตารางเซนติเมตร 2.ก๊อกน้ำข้างประตูชั้นดาดฟ้า วัดได้ 568 ไมโครซีเมนส์ต่อตารางเซนติเมตรจุดนี้ถือว่าค่าสูงกว่าปกติ 3. น้ำในอ่างห้องสูทชั้น 3 วัดได้ 413 ไมโครซีเมนส์ต่อตารางเซนติเมตร 4.อ่างห้องวีไอพีชั้น 2 วัดได้ 412 ไมโครซีเมนส์ต่อตารางเซนติเมตร 5. อ่างห้องสูทชั้น 1 วัดได้ 407 ไมโครซีเมนส์ต่อตารางเซนติเมตร 6.ห้องน้ำหญิงและ7.ห้องน้ำ ชายชั้น 1 วัดได้ 415 ไมโครซีเมนส์ต่อตารางเซนติเมตรเท่ากันทั้งสองห้อง 8.ห้องครัว วัดได้ 410 ไมโครซีเมนส์ต่อตารางเซนติเมตร 9.ห้องซักรีด 404 ไมโครซีเมนส์ต่อตารางเซนติเมตร 10.เคาเตอร์ล้างแก้วชั้นล่าง วัดได้ 413 ไมโครซีเมนส์ต่อตารางเซนติเมตร และ 11.ก๊อกน้ำอาคารลาดจอดรถ วัดได้ 408 ไมโครซีเมนส์ต่อตารางเซนติเมตร

Advertisement

นายประโยชน์กล่าวต่อว่า ภาพรวมตัวอย่างน้ำที่ตรวจสอบ ถือว่าค่าที่วัดได้ยังเกินมาไม่มากมีเพียงจุดเดียวที่สูงถึง 568 ไมโครซีเมนส์ต่อตารางเซนติเมตร และเชื่อว่าน่าจะมีการลอบนำน้ำบาดาลใช้ แต่ต้องนำเข้าห้องปฏิบัติการคัดแยกแร่ธาตุอีกครั้ง ใช้เวลา1สัปดาห์ และวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังพบจุดที่คาดว่าน่าจะเป็นจุดที่ใช้ในการสูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้จำนวน 3 จุด ซึ่งเป็นจุดประสงค์หลักในการมาวันนี้ จึงมั่นใจกว่า70เปอร์เซนต์ว่าสถานบริการแห่งนี้มีการลอบนำน้ำบาดาลมาใช้แน่นอน

ด้านนางอรัญญา กล่าวว่า จากการตรวจสอบทั้ง3จุดพบว่า มี2จุดที่มีการลอบสูบน้ำบาดาลมาใช้ โดยมีการปกปิด หากมองเผิน ๆ จะมองไม่เห็นและมีการหล่อคอนกรีตปิดทับต้องขุดมาถึงจะพบ โดยจุดแรกคือทางขึ้นข้างอาคารติดกับตัวตึกของสถานบริการ 2.ริมรั้วลานจอดรถ ส่วนจุดที่3นั้นพบว่าเป็นบ่อกักเก็บไขมันไม่ใช่จุดสูบน้ำ โดยทั้ง2จุดพบท่อสูบขนาด6นิ้วสภาพพร้อมใช้งาน และใช้มานานพอสมควรคาดว่าเกิน5ปีขึ้นไป แต่ยังประเมินระบุปีแน่ชัดไม่ได้ จากนี้เจ้าหน้าที่ของกรมฯจะไปลงบันทึกประจำวันที่สน.สุทธิสาร และโอนคดีไปให้ทางบก.ปทส.ดำเนินการ ทั้งนี้พบว่าค่าการเหนี่ยวนำไฟฟ้าของที่นี่จากที่เคยตรวจสอบก่อนหน้านี้ พบว่าวันนี้ตัวอย่างน้ำมีค่าลดลง คาดว่าอาจมีการเอาน้ำประปาผสมเข้าไป เชื่อว่าสถานบริการหลายแห่งมีลักษณะการลับลอบนำน้ำบาดาลมาใช้ จากนี้จะตรวจสอบปีที่สถานบริการเปิดและเทียบเคียงกับค่าน้ำ ทางกรมฯไม่สามารถคิดค่าน้ำย้อนหลังได้ตามกฎหมาย แต่จะประเมินความเสียหายและทำการฟ้องแพ่งต่อไป

“อยากให้สถานบริการที่มีการลอบนำน้ำบาดาลใช้ ให้มาแสดงตัวเพื่อทำการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายและดำเนินการปิดบ่อที่สูบน้ำบาดาลเสีย ตอนนี้ไม่พบปัญหาดินทรุดจากการลอบสูบน้ำทั่วประเทศ และขณะนี้ทางกรมฯอยู่ระหว่างยกร่างกฎหมายเพิ่มบทลงโทษจากการลอบสูบน้ำบาดาล โทษปรับจะสูงถึง2แสนบาท”นางอรัญญากล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบว่าสถานบริการแห่งนี้เปิดใช้งานตั้งแต่ปี2546 และจะตรวจสอบเรื่องการใช้น้ำและรอผลตรวจจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายแก่ผู้ที่กระทำผิดต่อไป

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image