เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็ก เปิดเผยถึงกรณีนายจักรกี (สงวนนามสกุล) อายุ 17 ปี ถูกฆ่ารัดคอภายในเรือนนอนชั้น 1 ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 8 จ.สุราษฎร์ธานี ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นภายในศูนย์ฝึกและอบรมฯ เจ้าหน้าที่พยายามเฝ้าระวังตลอดเวลา แต่ปัญหาเกิดจากเยาวชนมีเหตุทะเลาะวิวาทและบาดหมางกันมาตั้งแต่ข้างนอก โดยกลุ่ม จ.นครศรีธรรมราชมีเด็กรวมตัวกันหลายกลุ่ม เมื่อถูกนำมาควบคุมที่ศูนย์ฝึกและอบรมฯ เขต 8 เจ้าหน้าที่ได้พยายามป้องกันโดยจำแนกเด็กที่มีปัญหาไม่ให้อยู่ร่วมกัน แต่ขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ต้องดูแลเรือนนอน 2 ชั้น ระหว่างเดินขึ้นไปตรวจตราความเรียบร้อยบนชั้น 2 ก็เกิดเหตุที่เรือนนอนชั้น 1 มีการทำร้ายร่างกายในลักษณะปิดบังอำพราง โดยเด็ก 2 คนใช้ผ้าห่มนอนรุมทำร้ายและฆ่ารัดคอนายจักรกี โดยกลุ่มเด็กที่ก่อเหตุจัดอยู่ในกลุ่มเด็กที่มีสภาพปัญหาซับซ้อนรุนแรง ล่าสุดตำรวจได้แจ้งข้อหากับเยาวชนที่ก่อเหตุทั้ง 2 รายแล้ว ในส่วนของกรมพินิจฯจะทำรายงานเสนอศาลเพื่อขอให้ส่งตัวเยาวชนทั้ง 2 รายไปควบคุมไว้ในเรือนจำ เนื่องจากมีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายกับเยาวชนรายอื่น สำหรับเจ้าหน้าที่ได้สั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว หากพบว่าขณะเกิดเหตุบกพร่องละเลยต่อหน้าที่ก็ต้องถูกดำเนินการทางวินัย พร้อมทั้งจะเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตตามสมควร
“กรมพินิจฯไม่อยากให้เกิดเหตุดังกล่าว ในการควบคุมเพื่อแก้ไขการกระทำของเด็กที่กระทำความผิดอาญา พยายามแบ่งโซนกลุ่มเด็กมีความเสี่ยงมาก เสี่ยงปานกลาง และเสี่ยงน้อย เพื่อไม่ให้เยาวชนที่มีปัญหาอยู่ปะปนกัน กรณีที่เกิดในศูนย์ฝึกและอบรมฯ เขต 8 เป็นการบาดหมางของกลุ่มเยาวชนใน จ.นครศรีธรรมราชด้วยกัน หลังจากนี้จะแบ่งพื้นที่การดูแลเด็กเพื่อให้ง่ายต่อการสอดส่องดูแลและควบคุมการระงับเหตุ นอกจากนี้ จะทำโปรแกรมบำบัดเชิงลึกใช้จิตวิทยานำไปแก้ไขเยาวชนตามสภาพปัญหาในแต่ละราย สำหรับศูนย์ฝึกแต่ละแห่งมีปัญหาแตกต่างกันไปตามสภาพในแต่ละพื้นที่ แต่ไม่มีที่ไหนมีปัญหาเสี่ยงรุนแรงเหมือนจังหวัดภาคใต้ จึงต้องเข้าไปจัดวางระบบเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งของเด็กในแต่ละกลุ่ม” อธิบดีกรมพินิจฯกล่าว
