เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ต.ท.ธีรพงศ์ นาคสุข รอง ผกก.สส.สน.บางนา ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ วงค์สิงห์ รอง สว.สส.สน.บางนา ร.ต.อ.พิทักษ์ มีจิตร์ รอง สว.สส.สน.บางนา ร่วมกันนำกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางนา จับกุมตัว น.ส.เครือวัลย์ หรือนิว เพ็งบูลย์ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหา อยู่บ้านเลขที่ 22 ซอยบางนา-ตราด 19 แยก 3 แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กรุงเทพฯ และนายอนุชา หรือแชมป์ จันทร์มี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83 ซอยจ่าโสด แยก 2 แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพฯ ผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลางไอซ์ น้ำหนัก 10.5 กรัม และยาบ้าจำนวน 1,635 เม็ด โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 83 ซอยจ่าโสด แยก 2 แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากทางตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางนา สืบทราบว่าในซอยจ่าโสด แยก 2 แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพฯ มีสองสามีภรรยา ทราบเพียงชื่อเล่นว่า นายแชมป์และ น.ส.นิว มีพฤติกรรมร่วมกันลักลอบจำหน่ายยาบ้าและยาไอซ์ให้แก่ผู้เสพทั่วไปในย่านชุมชนจ่าโสด และเพี้ยนพิณ ในท้องที่ สน.บางนา มายาวนาน จึงได้สืบสวนติดตามมาโดยตลอด จน ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ และ ร.ต.อ.พิทักษ์ นำกำลังตำรวจออกสืบสวน โดยได้จอดรถซุ่มอยู่บริเวณใกล้บ้านพักของบุคคลทั้งสอง จากนั้นได้มีหญิงชาวไทยมีรูปพรรณตรงตามที่สายลับระบุ ทราบชื่อภายหลัง น.ส.เครือวัลย์ หรือนิว เดินออกจากบ้านเลขที่ 83 ดังกล่าว แล้วมาขึ้นคร่อมรถจักรยานยนต์ที่จอดริมถนนในซอยหน้าบ้าน ท่าทางมีพิรุธ จึงขอตรวจค้น แต่เจ้าตัวมีท่าทางตกใจ ก่อนยินยอมให้ตรวจค้นตัว ผลการตรวจค้นพบยาไอซ์บางส่วนอยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหน้าข้างขวาของผู้ต้องหา จากนั้น ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ และ ร.ต.อ.พิทักษ์ ได้นำกำลังขยายผล ทำการตรวจค้นบ้านพักหลังดังกล่าว ซึ่งขณะเข้าไปในบ้านที่ชั้นล่าง ได้พบเห็นชายไทย ทราบชื่อภายหลังคือนายอนุชา หรือแชมป์ นั่งอยู่ที่โซฟาอยู่ภายในบ้าน จนพบของกลางที่เหลือ ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมของกลางส่ง สน.บางนา
สอบสวน น.ส.เครือวัลย์ หรือนิว ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ตนกับนายอนุชา หรือแชมป์ เป็นสามีภรรยากัน ไม่ได้ประกอบอาชีพที่เป็นหลักแหล่ง โดยยาบ้าและยาไอซ์ดังกล่าวเป็นของตนจริง ซื้อมาจากชายไทย ชื่อเล่นว่า นายเอ (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) อายุประมาณ 25 ปี มีบ้านพักอยู่ในซอยสุขุมวิทซอย 62 ซื้อยาไอซ์ มาในราคากรัมละ 500 บาท แล้วมาตักแบ่งใส่ถุงขาย และทำมาประมาณ 4-5 ครั้ง ครั้งละ 10 กรัม ส่วนการรับยาบ้ามาขายนั้น ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ซื้อมา 2,000 เม็ด ในราคา 50,000 บาท แต่ยังไม่ได้จ่ายเงิน แล้วจะนำมาใส่ถุงแบ่งขายให้กับลูกค้าทั่วไป ส่วนใหญ่เป็นพนักงานโรงงานในย่านชุมชนจ่าโสด และเพี้ยนพิณ ในราคาเม็ดละ 60 บาท เพื่อหารายได้มาดำรงชีพ เนื่องจากมีรายได้ไม่พอกับรายจ่าย สำหรับการซื้อขายยาเสพติดระหว่างนายเอ กับผู้ต้องหา จะใช้โทรศัพท์ และจะนัดสถานที่วางเงิน ตลอดจนสถานที่ไว้วางยาเสพติดเท่านั้น โดยทำลักษณะนี้มาแล้วประมาณ 2 ปี
ส่วน นายอนุชา หรือแชมป์ ผู้ต้องหาที่รับว่าเป็นสามีของ น.ส.เครือวัลย์ หรือนิว ซึ่งทราบมาตลอดว่าแฟนสาวจำหน่ายยาเสพติดมานานแล้ว แต่เคยบอกให้ผู้แฟนสาวหยุดเลิกจำหน่ายยาเสพติดมาหลายครั้ง แต่ก็ไม่ฟัง ทั้งนี้ ยอมรับว่าเคยนำยาเสพติดของแฟนสาวมาเสพเองบ้างเป็นบ้างครั้งคราว และบ้านพักแห่งนี้ตนพักอาศัยอยู่กันเพียงสองคนเท่านั้น ซึ่งเป็นบ้านของแม่ตนซื้อไว้ให้พักอาศัย กระทั่งมาถูกจับดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การต้องทำการสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการยาเสพติดเหล่านี้ให้ได้ ซึ่งมีแนวทางการสืบสวนพบว่าเครือข่ายยาเสพติดนี้ ได้มาจากกลุ่มผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ถูกจับดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ เพื่อหาช่องทางหารายได้ เนื่องจากมีระบบการสั่งการทางโทรศัพท์ แต่เมื่อทางตำรวจตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้งสองรายไม่พบการกระทำความผิดมาก่อน จึงทำให้ตบตาทางตำรวจได้ เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน ( ยาบ้า/ยาไอซ์ ) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
