เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 มีนาคม ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.) นายเอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวมอบนาฬิกา และนายอานนท์ นำภา ทนายนักสิทธิมนุษยชน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยนายอานนท์ เข้าพบ พ.ต.ท.อธิลักษณ์ หวังสิริวรกุล รอง ผกก.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท.เจ้าของคดี ส่วนนายเอกชัย เข้าพบ ร.ต.อ. ณัฐษนัย มงคลกุล รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ปอท. เจ้าของคดี
นายอานนท์ กล่าวก่อนเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า เดินทางมารับทราบข้อหา 3 คดี คดีแรกมาให้การเพิ่มเติมคดีดูหมิ่นศาล ใน 2 กระทงแรก และอีกคดีคือทางพนักงานสอบสวนแจ้งความเพิ่มว่า มีพฤติการณ์ไปดูหมิ่นศาลอีกในการโพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ส่วนนายเอกชัย มีคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อความอันมีลักษณะเป็นการลามก เป็นการโพสต์ทางเฟซบุ๊ก จึงเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมกัน
นายอานนท์ กล่าวต่อว่า กรณีของตนเป็นการหมิ่นศาล เป็นคดีใหม่ ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น กรณีนำคำพิพากษาไปโพสต์ เป็นหมายเรียกครั้งแรก ทั้งหมด 3 ข้อความ
ด้าน นายเอกชัย กล่าวว่า เป็นการมาพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท.เป็นครั้งแรก จากกรณีที่อ้างว่ามีการโพสต์ไว้เมื่อเดือนเมษายนปี 2560 เกือบปีแล้ว ตนจำไม่ได้ว่าโพสต์อะไรไปบ้าง ขณะนั้นตนกำลังเขียนเรื่องในเรือนจำหลายเรื่องเลย ทั้งเรื่องชีวิตในเรือนจำ รวมทั้งเรื่องเพศสัมพันธ์ในเรือนจำ โดยพนักงานสอบสวน บก.ปอท.อ้างว่ามีข้อความหนึ่งที่เข้าข่ายลามกอนาจาร ตนจำไม่ได้ว่าเขียนอะไรไปบ้าง ไม่ใช่เป็นภาพ และเป็นหมายเรียกตนครั้งแรก โดยมีเพียง 1 ข้อหาเท่านั้น ขณะนี้ยังไม่ได้เตรียมอะไร หากต้องยื่นเรื่องขอประกันตัวตนจะมอบหมายให้ทนายความดำเนินการ
ส่วน นายถาวร ปิยะวงศ์รุ่งเรือง ทนายความ กล่าวว่า ตำรวจคุมตัวไปฝากขังต่อศาล ทางเราคงจะคัดค้านการฝากขัง เนื่องจากคดีเก่าได้ให้การเป็นลายลักษณ์อักษรไปแล้ว แต่วันเดียวกันนี้มีการแจ้งข้อหาใหม่ เป็นการเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในเบื้องต้นก่อน ส่วนนายเอกชัย เป็นเรื่องที่มารับทราบข้อหาเหมือนกัน สำหรับขั้นตอนต่อไปจะให้การเป็นหนังสือ
นายเอกชัย กล่าวถึงคดีที่ถูกทำร้ายร่างกายที่ สน.ลาดพร้าว ทางผู้ต้องหาเข้ามอบตัวไปแล้ว ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 1 หมื่นบาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี คดีจบไปแล้ว ทางตำรวจออกหมายเรียกดำเนินการไป แต่ตนไม่ค่อยพอใจการทำงานของตำรวจเท่าไหร่ เนื่องจากทางตำรวจรู้อยู่แล้วว่าตนต้องลงรถที่ป้ายรถโดยสารประจำทางตรงนั้น เหมือนเข้าข่ายร่วม แต่ผู้ต้องหาไม่ยอมรับว่ามีคนบอก อ้างว่าเขาทำของเขาเอง แต่ตนไม่เชื่อและอยากให้ตำรวจสาวไปให้ถึงคนที่อยู่เบื้องหลัง เพราะถ้าไม่มีคนบอก เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าตนอยู่ตรงนี้เวลานี้ และเวลาตนไปไหนมาไหน ก็มีตำรวจ ทหาร คอยติดตามข้อมูลตลอดเวลา
ภายหลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหา นายอานนท์ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา2กรรมๆ แรกไปวิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษาของศาลจังหวัดขอนแก่นในคดีของดาวดิน อีกกรรมเป็นการโพสต์บทกวีชื่อ”บทกวีถึงมหาตุลาการ”ที่ตนเป็นคนประพันธ์เอง ตนยินดีที่จะได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม สรุปโดนดำเนินคดีเดียว แต่แยกเป็น4กระทง4กรรมให้การปฏิเสธทั้งหมด แล้วจะให้การเพิ่มเติมเป็นลายลักษณ์อักษรมาภายหลังอีกที
นายเอกชัย กล่าวหลังรับทราบข้อกล่าวหาว่า พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ โดยระบุว่าตนนำข้อความที่เขียนเป็นตอนๆลงในเฟซบุ๊ก ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2560 เป็นเรื่องที่ตนเขียนเกี่ยวกับชีวิตนักโทษในเรือนจำ อ่านดูแล้วมันผ่านมานาน จำไม่ได้แล้วเพราะมันนานมาก ตนอ่านดูแล้วไม่น่าจะเข้าข่ายลามก ตามที่พนักงานสอบสวนดำเนินคดีเลย ตนให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
