ศาลปค.ชี้’ติ๋ม ทีวีพูล’มีสิทธิเลิกสัญญาคลื่นความถี่ สั่งกสทช.คืนแบงก์การันตี’บ.ไทยทีวี’1.5พันล้านใน60วัน

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 มีนาคม ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษาในคดีระหว่าง บริษัท ไทยทีวี จำกัด ของนางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือรู้จักในชื่อ ติ๋ม ทีวีพูล ยื่นฟ้อง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่

โดยบริษัท ไทยทีวี จำกัด ซึ่งเป็นผู้ชนะประมูล 2 ช่องทีวีดิจิทัล ได้แก่ ช่อง Loca และ ช่องไทยทีวี ยื่นฟ้องว่า กสทช. มีคำสั่งตามหนังสือที่ สทช 4010/5495 ลว. 12 ก.พ. 2559 เพิกถอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ และประกอบกิจการโทรทัศน์ เลขที่ B1-S20031-0024-57 และ B1-S20031-0017-57 และให้ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย อ้างว่าผู้ฟ้องคดีไม่ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตดังกล่าวให้ถูกต้องครบถ้วนก่อนเลิกการประกอบกิจการ ซึ่งผู้ฟ้องคดีเห็นว่า คำสั่งดังกล่าวตกเป็นโมฆะ เนื่องจากผู้ฟ้องคดีได้แจ้งยกเลิกใบอนุญาตและยุติการดำเนินการตามใบอนุญาตดังกล่าวไปก่อนแล้ว จึงเป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีเสียหาย

ศาลได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า บริษัท ไทยทีวี ผู้ฟ้องคดีมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ เนื่องจาก กสทช.ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้ประกาศเชิญชวนไว้ ดังนั้นเมื่อคู่กรณีบอกเลิกสัญญาแล้ว จึงให้ กสทช.คืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงเทพ ที่ได้วางไว้คืนแก่บริษัทไทยทีวีด้วย ภายใน 60 วันนับแต่คดีถึงที่สุด ส่วนคำขออื่นศาลให้ยก

Advertisement

ด้านนางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือ “ติ๋ม ทีวีพูล” กรรมการ บริษัท ไทยทีวี จำกัด ให้สัมภาษณ์ “มติชน” ว่า แม้จะพอใจกับผลการตัดสินมาก แต่คงจะยื่นอุทธรณ์ เพื่อขอคืนเงินที่จ่ายให้ กสทช. ในงวดแรกและงวดที่ 2 รวมถึงเรื่องเงินค่าเสียหาย เพราะในความคิดของตนทั้งหมดเป็นผลจากการที่ กสทช.ทำผิดสัญญา

“ดีใจที่เรายังได้รับความยุติธรรม มั่นใจในศาลตลอด แม้จะเป็นการต่อสู้กับรัฐที่ใครก็บอกว่ายากมาก แต่ดิฉันก็มั่นใจว่าเขาทำผิดจริง เป็นประจักษ์ทั้งประเทศ เพราะทุกเจ้าไม่มีใครที่อยู่อย่างสุขสบายเลย” ติ๋ม ทีวีพูลกล่าว

ติ๋ม ทีวีพูล กล่าวด้วยว่า พอใจที่ศาลชี้ว่า กสทช.ทำผิดจริง ทำให้คนทั้งประเทศรู้ว่า กสทช.ทำผิดจริง ศาลให้ กสทช.คืนแบงค์การันตีให้บริษัทไทยทีวีในงวดที่3,4,5และ6 มูลค่ารวมกว่า 1,500 ล้านบาท

Advertisement

“เชื่อว่าเราไม่ใช่คนที่ไม่เก่ง ไม่ใช่คนที่อ่อนแอ หรือไม่มีสายป่าน ขาดทุนแล้วจึงเลิก แต่เชื่อว่าตัวเองเป็นคนเก่ง มีความสามารถ เพียงแต่สิ่งที่ กสทช.ทำไม่ได้เอื้อและเป็นอุปสรรคจนทำให้เกิดความเสียหาย ประวัติการทำธุรกิจเกือบ40ปีไม่เคยขาดทุนแม้แต่บาทเดียว ทำไมเราจึงจะมาโง่วันนี้ กลายเป็นคนมองธุรกิจไม่เป็น อ่อนแอ เป็นเรื่องที่กระทบภาพลักษณ์มาก การสู้วันนี้ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่สู้เพื่อประชาชน ตอนนี้ช่องอื่น ๆก็ลำบากหมด บางคนครอบครัวแตกแยก ถึงขนาดเกือบฆ่าตัวตาย ล้วนเกิดจากการกระทำของ กสทช.ทั้งสิ้น ถือว่าเป็นบาปอย่างยิ่ง และแม้ว่ากสทช.ชุดที่อนุมัติเรื่องทีวีดิจิตอลจะพ้นตำแหน่งไปแล้ว แต่ใครทำกรรมอะไรไว้ก็ต้องรับผลกรรมนั้น”ติ๋ม ทีวีพูล กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image