เมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่ สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ นายนิวัตร วินัยวัฒนวงศ์ ในฐานะผู้ยื่นจดทะเบียนขอรับใบอนุญาตให้เป็นทนายความ พร้อมนายวันชัย บุญนาค ซึ่งเป็นทนายความผู้รับรองภาคปฎิบัตินายนิวัตร ได้เดินทางมายื่นหนังสือขอให้ทบทวนวาระการประชุมและเสนอบรรจุวาระการประชุมจากกรณี นายชัยวัธน์ ประจงใจ นายทะเบียนสภาทนายความ ซึ่งเป็นกรรมการบริหารสภาทนายความ ได้เอาเรื่องส่วนตัวมาคัดค้านการขี้นทะเบียนรับใบอนุญาติให้ขึ้นเป็นทนายความของนายนิวัตร โดยระบุทำนองว่า นายนิวัตร ได้หมิ่นประมาท นายชัยวัธน์ และได้แจ้งความไว้ที่ สน.บางเขน พร้อมได้เอาบันทึกประจำวันมาคัดค้านว่านายนิวัตรไม่สมควรได้รับจดทะเบียนเป็นทนายความ
นายนิวัตรกล่าวว่ายังไม่เคยได้รับหมายเรียกจากพนักงานสอบสวน และคดีดังกล่าวยังไม่ถึงชั้นพิจารณาของศาล และยังไม่มีคำพิพากษา ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการขัดต่อ พ.ร.บ. ทหนายความ 2528 ม.35 และ ม.36 และขัดต่อรัฐธรรมนูญ2560 ม.4,5 ที่บุคคลย่อมได้รับการคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งตาม พ.ร.บ. ทนายความ2528 ไม่ได้มีบทบัญญัติมาตราใดที่ให้อำนาจคณะกรรมการสภาทนายความ ให้รับคำคัดค้านหรือกล่าวหาในเรื่องดังกล่าว จึงมายื่นคำร้องต่อนายถวัลย์ รุยาพร นายกสภาทนายความฯ เเละหนังสือยื่นคำร้องขอให้ทบทวนวาระการประชุมและเสนอบรรจุวาระการประชุมกับ สรัลชา ศรีชลวัฒนา เลขาธิการสภาทนายความ เเละหนังสือคำร้องขอให้ จดทะเบียนขอรับใบอนุญาตให้เป็นทนายความ ตามกฎหมาย ต่อ นายชัยวัธน์ ประจงใจ นายทะเบียนสภา ตามลำดับ
โดยนายวันชัย กล่าวว่า สำหรับนายนิวัตร มีคุณสมบัติครบตาม ม.35 พ.ร.บ. ทนายความฯ ซึ่งตลอดระบะเวลา33ปี ของสภาทนายความไม่เคยมีนายทะเบียนสภาทนายความเอาเรื่องส่วนตัวมาคัดค้านผู้ขอจดทะเบียนเป็นทนายความ ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ซึ่งสภาทนายความไม่มีอำนาจสอบสวนในคดีหมิ่นประมาท มีเพียงศาลเท่านั้นที่มีอำนาจตัดสินคดี นายชัยวัธน์ นายทะเบียนไม่มีสิทธิใดๆ นำเรื่องคัดค้านนี้เสนอเข้าที่ประชุมกรรมการสภาทนายความ และ นายสรัลชา ศรีชลวัฒนา เลขาธิการสภาทนายความ ได้นำเอาเรื่องการคัดค้านการขึ้นทะเบียนทนายความที่สภาทนายความไม่มีอำนาจตัดสินบรรจุเข้าวาระประชุมกรรมการสภาทนายความ และนายสรัลชา เลขาธิการสภาทนายความกลับไม่บรรจุวาระการประชุมการขอจดทะเบียนของนายนิวัตร ในการประชุมเดือนมีนาคม ทำให้นายนิวัตรไม่ได้รับใบอนุญาตโดยเร็ว เรื่องดังกล่าวจึงไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.ทนายความ และไม่เป็นธรรมต่อนายนิวัตร ตนในฐานะ สมาชิกสภาทนายความและเป็นผู้รับรองภาคปฎิบัติของนายนิวัตร จึงเดินทางมาขอใช้สิทธิ แสดงความเห็น เพื่อให้นายทะเบียนและเลขาธิการสภาทนายความ ปฎิบัติให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของสภาทนายความและตามกฎหมายโดยเร็ว เพื่อความเป็นธรรมแก่นายนิวัตร โดยนายวันชัยกล่าวว่าถ้าภายในเดือนเมษายนนี้ยังไม่มีการพิจารณานำวาระเรื่องการขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตให้ขึ้นเป็นทนายความมาพิจารณาหรือมีการพิจารณาไม่ผ่านการขึ้นทะเบียนของนายนิวัตรตนจะนำเรื่องดังกล่าวร้องต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่จะมีอำนาจสอบสวนเรื่องนี้ ตามมาตรา 20ของ พ.ร.บ.สภาทนายความ
โดยหนังสือดังกล่าวมีผู้อำนวยการฝ่ายทะเบียนสภาทนายความเป็นผู้รับเรื่องเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
