เมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่สำนักงานศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะ นายดรัณ ภูรีสถิต ผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทสยาม สแตนดาร์ด เอนเนอจี้ จำกัด ยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไต่สวนนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการณ์ผู้อำนวยองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และนายสมควร นาสนม ประธานกรรมการตรวจรับรถเมล์เอ็นจีวีจำนวน 489 คัน วงเงิน 4,221 ล้านบาทเศษ จาก กลุ่มทำงาน SCN-CHO โดยบริษัท ช. ทวี จำกัด (มหาชน) และบริษัท สแกนอินเตอร์จำกัด (มหาชน) โดยกล่าวหาว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม มีพฤติกรรมยุงยงส่งเสริมไม่ให้ ขสมก. ปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองกลางเมื่อวันที่ 10เมษายน ที่สั่งห้าม ขสมก.และคณะกรรมการบริหารกิจการขสมก.(บอร์ดขสมก.) นำมติบอร์ด ขสมก.ในการประชุมครั้งที่ 16/2560 ให้ขสมก.ทำสัญญาจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีจำนวน 489 คัน วงเงิน 4,221 ล้านบาทเศษ จาก กลุ่มทำงาน SCN-CHO โดยบริษัท ช. ทวี จำกัด (มหาชน) และบริษัท สแกนอินเตอร์จำกัด (มหาชน) ไปดำเนินการใดที่มีผลผูกพันกับขสมก.และบอร์ดขสมก.เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น
เนื่องจาก เมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา นายอาคม ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ได้สั่งการให้ ขสมก.ไปหารือกับอัยการสูงสุด(อสส.) เพื่อดูความชัดเจน และวิเคราะห์ของข้อคำสั่งศาล เพื่อยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วันและรถเมล์เอ็นจีวีจำนวน 489 คันจากกลุ่มทำงาน SCN-CHO นำโดยบริษัท ช.ทวี จำกัด(มหาชน)เป็นผู้จัดหารถ ซึ่ง ขสมก.ได้นำมาให้บริการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมาจำนวน 100 คันนั้น ยังคงให้บริการประชาชนต่อไป และเดินหน้าตามสัญญา พร้อมทยอยรับมอบรถจนครบ 489 คันตามสัญญาที่ระบุไว้ โดยมีเอกสารที่นายวิทยาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเป็นเอกสารเเนบท้าย เเละการที่นายอาคมได้ให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเป็นการยุยงส่งเสริมไม่ให้ ขสมก.ปฏิบัติตามคำพิพากษาอย่างชัดเเจ้ง ไม่ได้เป็นการเเสดงความเห็นโดยสุจริตเเต่อย่างใดเเละปรากฎข้อเท็จจริงในขณะนี้ว่าผู้ถูกฟ้องคดีได้ละเมิดคำสั่งศาลเเละไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองกลางเเต่อย่างใด
จึงขอให้ศาลหมายเรียกนายอาคมมาสอบถามว่เหตุใดถึงให้สัมภาษณ์ลักษณ์นี้ เเละหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องมาไต่สวนเพื่อให้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลต่อไปตามมาตรา75/3
รวมทั้งขอให้ศาลกำหนดบทลงโทษต่อ รมว.คมนาคม และ ขสมก.ที่ไม่ได้ปฏิบัติตามคําบังคับของศาลปกครองให้ถูกต้องครบถ้วนหรือปฏิบัติล่าช้าเป็นไปโดยไม่มีเหตุอันสมควร ตามมาตรา 75/4 พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง
สำหรับคดีดังกล่าว บริษัทสยาม สแตนดาร์ด เอนเนอจี้ จำกัด เป็นผู้เข้าร่วมประมูลโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 60 หรือหลังจากที่ขสมก.ยกเลิกสัญญาจัดซื้อรถเมล์จำนวนดังกล่าวจากบริษัทเบสท์รินแล้ว ได้ยื่นฟ้องขสมก. และคณะกรรมการบริหารกิจการขสมก.(บอร์ดขสมก.) โดยกล่าวหาว่า บอร์ดขสมก.มีมติในการประชุมครั้งที่ 16/2560 ให้ขสมก.ทำสัญญาจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีจำนวน 489 คัน วงเงิน 4,221 ล้านบาทเศษ จาก กลุ่มทำงาน SCN-CHO โดยบริษัท ช. ทวี จำกัด (มหาชน) และบริษัท สแกนอินเตอร์จำกัด (มหาชน) โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย