เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 20 เมษายน 2561 ที่ สน.สุทธิสาร พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.สุทธิสาร พ.ต.ท.เธียรธวัช อรรจนะเวทางค์ รอง ผกก.ปฏิบัติงาน กอ.รมน. ได้ร่วมกันจับกุมนายนัฐชา พันธุ์คุ้มเก่า อายุ 32 ปี ตามหมายจับศาลอาญา มฝ ที่ 763/2561 ลงวันที่ 11 เมษายน 2561 ในข้อหา “ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ” สามารถจับกุมได้ที่ศศิวิมลอพาร์ตเมนต์ ซอยพหลโยธิน 32 ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนทราบว่านายนัฐชาได้มีการใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “ภาพนุงพงศ์ สินชัยเจริญ” ในการเปิดกลุ่มเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “รับซื้อขายสมุดบัญชี+บัตร ATM” โดยในกลุ่มจะมีสมาชิกจำนวน 100 รายที่ใช้ในการพูดคุยซื้อ-ขายบัญชีนั้นๆ ผู้ที่ขายบัญชีนั้นจะต้องมีเอกสารประกอบด้วย สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน บัตรเอทีเอ็มพร้อมรหัส สมุดบัญชี และซิมการ์ดที่ลงทะเบียนกับบัญชีไว้ ซึ่งเมื่อส่งมาแล้วผู้ต้องหาจะทำการเช็กบัญชีดังกล่าวว่าใช้ได้หลังจากนั้นไม่เกิน 3 วัน ผู้ต้องหาจะโอนเงินจำนวน 900-1,000 บาทแก่เจ้าของบัญชีนั้นๆ จากนั้นเมื่อได้บัญชีมา ผู้ต้องหาจะนำบัญชีไปขายต่อให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือกลุ่มแก๊งที่กระทำความผิด สูงสุดในราคา 3,000-20,000 บาท
รอง ผบช.ทท.เปิดเผยต่อว่า จากการตรวจสอบ พบว่านายนัฐชาเคยประกอบอาชีพเป็นพนักงานธนาคาร บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งจึงมีความคล่องตัวในเรื่องของการเปิด-ปิดบัญชี ก่อนที่จะผันตัวเองมาเป็นมิจฉาชีพได้ประมาณ 1-2 ปี จากการตรวจสอบ พบว่ามีการขายบัญชีไปแล้ว 50 บัญชี ซึ่งบางบัญชีได้เปิดเฟซบุ๊กเป็นเซียนพระชื่อดัง และหลอกเอาเงินจากผู้เล่นพระให้โอนเงิน จากนั้นก็ปิดเฟซบุ๊กดังกล่าวไป
อยากฝากเตือนไปยังผู้กระทำความผิดว่า ขณะทางเจ้าหน้าที่มีรายชื่อผู้ที่เอาบัญชีไปเปิดจำนวน 134 ราย อย่างไรก็ตาม การเอาบัญชีมาขายมีความผิดทุกราย ซึ่งได้ปรึกษาหารือกับทาง ปปง.แล้ว เพื่อชี้มูลฐานความผิดให้ชัดเจน
