ทนายความคดี ‘ชัยภูมิ ป่าแส’ เผย พร้อมสู้ถึงที่สุด เล็งใช้คดี ‘อาเป’ เป็นแนวทาง

ทนายความคดีชัยภูมิ ป่าแส เผยพร้อมสู้คดีถึงที่สุด หากอัยการอุทธรณ์ หลังศาลชั้นต้นยกฟ้องจำเลยคดียาเสพติด บอกยังเรียกร้องค่าเสียหาย-เยียวยาไม่ได้ ต้องรอคดีถึงที่สุดก่อน ด้านญาติ บอกครอบครัวดีใจที่พ้นข้อกล่าวหา แต่ยังไม่กลับบ้าน ขอพักผ่อนกับครอบครัวก่อน วอนนำซีซีทีวี คดี ‘ชัยภูมิ ป่าแส’ พิสูจน์ชั้นศาล หากผิดจริง สมควรตาย ยอมรับได้-ไม่ติดใจ ถ้าวิสามัญฆาตกรรม ต้องนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย เล็งใช้คดี ‘อาเป’ ชาวไทใหญ่ที่ถูกวิสามัญ เป็นแนวทางต่อสู้คดี ชี้เทียบพฤติกรรมเจ้าหน้าที่ที่ใช้ความรุนแรงเกินเหตุ

วันที่ 26 เมษายน นายสุมิตรชัย หัตถสาร ทนายความสมาคมนักกฏหมายสิทธิมนุษยชน เผยกรณีศาลจังหวัดเชียงใหม่ อ่านคำพิพากษาคดีอาญา 3631/60 ลงโทษจำคุกนางนาแส หรือนาโถ แสชือ จำเลยที่ 1 ผู้ต้องหาคดียาเสพติด 25 ปี ปรับ 750,000 บาท แต่ยกฟ้องนางนาหวะ จะอือ จำเลยที่ 2 เนื่องจากพยานหลักฐานของโจทก์สืบไม่ถึง จึงยกผลประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลย หลังเจ้าหน้าที่ทหารใช้อาวุธสงครามวิสามัญนายชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมชาวลาหู่ บริเวณด่านตรวจบ้านรินหลวง ต.เมืองแนะ อ.เชียงดาว เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 หรือ 1 ปีกว่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นรถยนต์นายชัยภูมิ พบยาบ้า จำนวน 2,800 เม็ด ก่อนขยายผลจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จนกระทั่งศาลอ่านคำพิพากษาดังกล่าววันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมาว่า ต้องรอดูทางอัยการจังหวัดว่าจะอุทธรณ์คดีดังกล่าวภายใน 30 วันหรือไม่ ถ้าอุทธรณ์ ต้องยื่นเรื่องค้านอุทธรณ์ หรือต่อสู้คดีจนถึงที่สุด เพื่อให้นางนาหวะได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด

ส่วนการเรียกร้องค่าเสียหาย หรือเยียวยาให้แก่นางนาหวะ หลังศาลยกฟ้องคดีดังกล่าวนั้น ต้องรอให้คดีถึงที่สุดก่อน ขณะนี้ยังไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหาย หรือเยียวยาจากกองทุนกระทรวงยุติธรรมได้ และต้องรอคำสั่งศาล กรณีการชันสูตรพลิกศพนายชัยภูมิ ป่าแส ในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ว่า ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมหรือไม่ เพื่อนำคำสั่งดังกล่าวให้พนักงานสอบ นำไปประกอบสำนวนคดี ก่อนส่งให้อัยการว่าเห็นควรสั่งฟ้องเจัาหน้าที่ว่าได้ปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมายหรือไม่

ด้านนายไมตรี จำเริญสุขสกุล ผู้ดูแลนายชัยภูมิ ป่าแส และเป็นญาติกับนางนาหวะ กล่าวว่า ครอบครัวรู้สึกดีใจที่นางนาหวะพ้นข้อกล่าวหา หลังเจ้าหน้าที่นำหมายศาลเข้าตรวจค้นและจับกุม ก่อนถูกคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่นานกว่า 1 ปี ทำให้นางนาหวะได้กลับมาอยู่กับครอบครัวแล้ว แต่ยังไม่เดินทางกลับบ้าน เพราะไปพักผ่อนกับครอบครัว ทำให้นางนาหวะมีความสุขที่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกเหมือนเดิม หลังสูญเสียอิสรภาพนานนับปี ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และครอบครัวได้รับผลกระทบมาก ส่วนการเรียกร้องค่าชดเชย หรือเยียวยาความเสียหายให้กับนางนาหวะนั้น ต้องขอปรึกษากับทนายความก่อนว่าสามารถดำเนินการได้มากน้อยแค่ไหน

Advertisement

ส่วนความคืบหน้าคดีของนายชัยภูมิ ป่าแส รู้สึกพอใจ แต่การพิจารณาคดีดังกล่าวยังไม่มีการนำหลักฐานที่เป็นกล้องวงจรปิด หรือซีซีทีวี เข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ว่าเจ้าหน้าที่ได้กระทำหรือปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ดังนั้น อยากเรียกร้องให้มีการนำซีซีทีวีเข้าสู่การพิจารณาของศาล เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง หากพบว่านายชัยภูมิกระทำความผิดจริงตามเจ้าหน้าที่กล่าวหาว่าขัดขืน ใช้ระเบิดมือขว้างเพื่อต่อสู้ และสมควรตาย ก็พร้อมยอมรับ และไม่ติดใจเรื่องใดๆ อีก หากเป็นการวิสามัญฆาตกรรม หรือใช้ความรุนแรงเกินเหตุ ก็ควรนำเจ้าหน้าที่หรือผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายเช่นกัน เพื่อความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

รายงานข่าวแจ้งว่า ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้ติดตามคดีนายอาเป ชาวไทยใหญ่ ที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญหรือกระทำเกินกว่าเหตุจนเสียชีวิต ซึ่งศาลนัดสืบพยานวันที่ 30 เมษายนนี้ ซึ่งคดีดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกับคดีนายชัยภูมิ ป่าแส แต่ไม่มีกล้องวงจรปิด หรือซีซีทีวี จึงนำสืบพยานที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวแทน เพื่อเปรียบเทียบกับคดีนายชัยภูมิว่าเจ้าหน้าที่มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง หรือวิสามัญฆาตรกรรมมากน้อยแค่ไหน เพื่อใช้เป็นแนวทางต่อสู้คดีนายชัยภูมิ และดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ที่ไม่ปฏิบัติตามกฏหมายด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image