เมื่อวันที่ 28 เมษายน ที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ว่าที่ ร.ต.ภูมิศักดิ์ ขำปู่ นายอำเภอท่าอุเทน พร้อมด้วย พ.ต.อ.นที สิริวรวัชร์ ผกก.สภ.ท่าอุเทน พ.ต.ท.ทวี ภาน้อย ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ร่วมกับกำลังทหารชุดเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติด กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี กองร้อยทหารพรานที่ 2107 แถลงการจับกุมนายสุรพล แสงบา อายุ 38 ปี ชาวบ้านท่าหนามแก้ว ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน อาชีพทำประมงหาปลาน้ำโขง พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 1,970 เม็ด รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีเทาดำ ทะเบียน ขขง 567 หนองคาย และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง
โดยจับกุมได้บริเวณถนนเส้นทางระหว่างบ้านโนนสวรรค์-บ้านท่าหนามแก้ว หมู่ 8 ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน ขณะกลับมาจากไปติดต่อรับยาบ้ามาจากเครือข่ายค้ายาบ้าข้ามชาติชาวลาว เพื่อนำมาพักส่งต่อให้ลูกค้าไทย แต่เจ้าหน้าที่สืบทราบ จึงวางแผนสกัดจับกุมได้ ตรวจค้นพบซุกซ่อนยาบ้าไว้ในรองเท้าบู๊ต ตบตาเจ้าหน้าที่ แต่หนีไม่รอด
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายทุนชาวลาว ที่รู้จักกันในเครือข่าย ให้ไปรับยาบ้ามาจาก สปป.ลาว ซึ่งใช้วิธีออกเรือหาปลา และติดต่อนัดหมายรับยาบ้ามาฝั่งไทย จากนั้นจะนำมาพักเพื่อรอการติดต่อส่งให้ลูกค้าอีกทอดหนึ่ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 3,000-5,000 บาท ทำไปเพราะรายได้ไม่เพียงพอ หาปลายาก ต้องดูแลภรรยาและลูกอีก 5 คน โดยวิธีการขนจะใช้วิธีออกเรือหาปลา จากนั้นจะมีการนัดหมายกับแก๊งค้ายาบ้าชาวลาวนำยาบ้ามาส่ง ก่อนนำมาพักรอส่งลูกค้า และผู้ต้องหาอ้างว่าเพิ่งทำครั้งแรก แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เพราะรู้จักเครือข่ายและขบวนการค้ายาบ้าชาวลาว จะต้องมีความชำนาญและทำมาหลายครั้ง อย่างไรก็ตามทางตำรวจจะได้เร่งสอบสวนขยายผล ติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และเพิ่มมาตรการเข้มสกัดกั้นปราบปรามตามแนวชายแดน โดยเฉพาะชาวบ้านประมงหาปลา ต้องเข้มงวดเป็นพิเศษ เนื่องจากปัจจุบันมีการใช้การขนแบบกองทัพมด และใช้ชาวบ้านประมงหาปลาเป็นเครื่องมือรับจ้างส่งยาบ้าเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่
