เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายวิศิษฎ์ วิศิษฎ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม พล.ต.ต.สมจิตร์ ทองแท่ง ผบก.ภ.จว.สุโขทัย พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ร่วมกันแถลงความคืบหน้าผลการติดตามตัวผู้ต้องขังที่ก่อเหตุหลบหนีจากเรือนจำจังหวัดสุโขทัยจำนวน 2 ราย คือ นักโทษชาย ชัยณรงค์ และนักโทษชาย สุรศักดิ์ สองนักโทษคดียาเสพติด ได้หนีออกจากเรือนจำสุโขทัย โดยปีนขึ้นช่องฝ้าเพดานของห้องขัง หลบหนีออกไปนอกตัวอาคารเรือนนอน เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าวว่า นักโทษชายชัยณรงค์ อาจปาน ถูกจับกุมตัวขณะกำลังกบดานที่แคมป์คนงานก่อสร้างหลังหนึ่งใน ต.มหาพราหมณ์ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม และนักโทษชาย สุรศักดิ์ โมรา ถูกจับกุมได้ที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีแฟนสาวเป็นผู้พาหลบหนี ทั้งนี้ นักโทษชายชัยณรงค์ถูกส่งตัวไปที่เรือนจำสุโขทัยแล้ว ส่วนนักโทษชายสุรศักดิ์ขณะนี้ถูกคุมตัวอยู่ในห้องขังของดีเอสไอ ซึ่งหลังแถลงข่าวเสร็จสิ้นจะควบคุมตัวกลับเรือนจำสุโขทัยโดยเร็วที่สุด
พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าวต่อว่า กระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ที่ให้การสนับสนุนและร่วมมือในการติดตามตัวผู้ต้องขังเป็นอย่างดี
พล.ต.ต.สมจิตร์กล่าวว่า นักโทษทั้ง 2 รายไม่ได้มีการเตรียมการในการหลบหนี แต่เมื่อสบโอกาสจึงแหกคุกออกมา จากนั้นได้โทรบอกญาติให้มารับและพาหลบหนี
พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า สำหรับรายละเอียดการสอบปากคำผู้ต้องขังทั้ง 2 ราย เพื่อหาสาเหตุการหลบหนีออกจากเรือนจำ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงโดยไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด แต่เบื้องต้นไม่พบเจ้าหน้าที่เรือนจำมีส่วนเกี่ยวข้องหรือช่วยให้นักโทษหลบหนี อย่างไรก็ตามจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการตรวจสอบอีกครั้ง
“ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เกี่ยวข้องที่สามารถนำผู้ต้องขังกลับมาได้ ถือได้ว่าเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคม และจะเร่งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขระบบต่างๆ ที่ยังมีข้อบกพร่องอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” พล.อ.อ.ประจินกล่าว
พล.อ.อ.ประจินกล่าวอีกว่า ขณะนี้กระทรวงยุติธรรมวางแผนดำเนินการก่อสร้างและปรับปรุงเรือนจำสร้างเรือนจำใหม่ประมาณ 30 แห่ง เราใช้เวลาดำเนินการ 3-5 ปี เพื่อยกระดับเรื่องความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังภายในเรือนจำ ด้านสุขอนามัยและการรักษาพยาบาล เนื่องจากเรือนจำ 143 แห่งทั่วประเทศ สามารถรองรับผู้ต้องขังได้รวมทั้งสิ้น 200,000 ราย แต่ขณะนี้มีจำนวนผู้ต้องขังมากกว่า 350,000 คน ทำให้เกิดความแออัดจนนำไปสู่การหลบหนีออกนอกเรือนจำ
