เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 พฤษภาคม ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เดินทางเข้าสอบปากคำสมาชิกพรรคเพื่อไทยจำนวน 8 ราย นายวัฒนา เมืองสุข อายุ 60 ปี ชาวปราจีนบุรี นายจาตุรนต์ ฉายแสง อายุ 62 ปี ชาวฉะเชิงเทรา นายชูศักดิ์ ศิรินิล อายุ 69 ปี นายนพดล ปัทมะ อายุ 57 ปี นายชัยเกษม นิติสิริ อายุ 69 ปี ชาวนนทบุรี นายภูมิธรรม เวชยชัย อายุ 64 ปี พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ อายุ 84 ปี และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อายุ 59 ปี โดยรวมทั้งหมด 4 ข้อหา แบ่งตามกลุ่มจำนวน 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 นายวัฒนา นายจาตุรนต์ นายชูศักดิ์ ในฐานความผิด “ร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวน 5 คนขึ้นไป โดยไม่รับอนุญาตจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย” และความผิด ป.อาญา มาตรา 116 กลุ่มที่ 2 นายนพดล นายชัยเกษม นายภูมิธรรม พล.ต.ท.วิโรจน์ และนายกิตติรัตน์ ในฐานะความผิดร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวน 5 คนขึ้นไป โดยไม่รับอนุญาตจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย” และกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มแอดมินเพจในฐานะความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 มาตรา 14 รวมทั้งสิ้นจำนวน 4 ข้อหา
พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า ขอขอบคุณที่มาตามหมายเรียกกระบวนการยุติธรรมก็ดำเนินการตามวิอาญา พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายไม่มีซ้ายไม่มีขวา ไม่มีนอกไม่มีใน สำหรับข้อหานั้นจะแตกต่างกันไปโดย 3 คนที่เป็นผู้นั่งแถลงก็จะต้องทำการแจ้งข้อหา ความผิด ป.อาญา มาตรา 116 เพิ่มเติม ส่วนที่เหลือจะโดนในข้อหาร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวน 5 คนขึ้นไป โดยไม่รับอนุญาตจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการออกหมายเรียกเร็วผิดปกตินั้น ตนได้ชี้แจ้งไปแล้วว่ามีการสอบพยานเสร็จสิ้นจำนวน 8 ปากในวันที่ก่อนจะดำเนินการออกหมายเรียก ซึ่งทำตามขั้นตอนขอกฎหมาย สำหรับบรรทัดฐานการแถลงข่าวนั้นคือการแถลงข้อเท็จจริงถ้ามีการออกความเห็นด้วยก็คงไม่ใช่การแถลงข่าว ซึ่งทางสื่อน่าจะทราบดีว่าอะไรคือการแถลงข่าว รายงานข่าว หรือว่าวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งพวกท่านก็จบปริญญามาแล้วทั้งนั้น
ถามต่อว่าก่อนหน้านี้มีการแถลงข่าวหลายต่อหลายครั้งทำไมไม่โดนแจ้งข้อกล่าวหา พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวเพราะตนไม่ทราบ ทำไมสื่อไม่เอามาร้องทุกข์ หากมีการร้องทุกข์ตนก็จะดำเนินคดี สำหรับกรณีดังกล่าวที่ตนทราบเพราะทาง คสช.มาร้องทุกข์ ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนไปตามกบิลบ้านกบิลเมือง หากไม่เป็นไปตามที่กล่าว ก็สมน้ำหน้าให้ฟ้องกลับเอา ยืนยันว่าตรงไปตรงมาทำงานตามเนื้อผ้า วันนี้ผู้ถูกกล่าวหามายังไม่ครบขาดไปอีก 1 ท่าน คือ นายศักดา นพสิทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ซึ่งยังมีเวลาถึงวันที่ 22 พฤษภาคม ตามกำหนดการในหมายเรียก ซึ่งทั้ง 8 รายมาตามหมายเรียกไม่ได้มีท่าทีหลบหนี ฉะนั้นภายหลังการสอบปากคำก็จะทำการปล่อยตัวไปทันที โดยไม่ได้มีเงื่อนไขใด จะมีการเรียกอีกครั้งหรือไม่นั้นก็แล้วแต่สำนวนว่าครบถ้วนหรือไม่
รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า สำหรับการที่มีการค้างนอนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตนได้ตำหนิ ผกก.สน.ชนะสงคราม ไปแล้วว่าไปอนุมัติได้อย่างไรซึ่งตนได้ให้แก้ไขยกเลิกไปแล้วเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ซึ่งการชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งเร็วขึ้นมันขัดการชุมนุมทางการเมือง ซึ่งขัดคำสั่งของ คสช. ไม่สามารถทำได้ หากจะร่วมตัวฝ่าฝืนกฎหมายเราก็จะดำเนินการตามกฎหมาย สำหรับการเดินเท้านั้นจะลงไปตรวจสอบด้วยตนเองเพราะใกล้เขตพระราชฐานระยะ 150 เมตรมาก โดยมีการจัดเตรียมกำลัง 3-20 กองร้อยตามสถานการณ์ อย่างไรก็ตามจากทางการข่าวยังยืนยันว่ามีกลุ่มแดงฮาร์ดคอร์แน่นอนแต่อยู่ที่ว่าเราจะหยุดอยู่หรือไม่ ฝากถึงว่า อย่าก่อความวุ่นวาย หากวันที่ 22 พฤษภาคม จะมีการชุมก็ต้องดูว่าทหารเค้าอนุมัติให้ชุมนุมหรือไม่หากไม่มีการอนุมัติก็ไม่สามารถทำได้ โดยสั่งให้ 50 เมตร รอบทำเนียบรัฐบาลเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง นอกจากนี้เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่จังหวัดนนทบุรีก็พบระเบิดเก่ามีคนเอามาทิ้งไว้
