เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 22 พฤษภาคม ที่สน.ชนะสงคราม เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว นายรังสิมันต์ โรม นายสิรวิชญ์ หรือจ่านิว เสรีธิวัฒน์ นายปิยรัฐ หรือโตโต้ จงเทพ และ นายนิกร วิทยาพันธุ์ 4 แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง มาสอบปากคำพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา โดยบรรยากาศที่ สน.ชนะสงคราม มีมวลชนมารอให้กำลังใจบริเวณด้านหน้า สน.จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้ น.ส.พัฒน์นรี ชาญกิจ หรือหนึ่งนุช มารดานายสิรวิชญ์ หรือจ่านิว เดินทางมาเยี่ยมบุตรชายหลังทราบข่าวการถูกคุมตัว ทันทีที่จ่านิวเห็นหน้ามารดาก็มีสีหน้ายิ้มแย้มไม่อยู่ในอาการเครียด โดยแม่จ่านิวได้ใช้ฝ่ามือลูบไปที่ใบหน้าของลูกชาย เพื่อตรวจสอบอาการพบว่ามีอาการตัวร้อนปวดหัวคล้ายเป็นไข้พร้อมกันนี้ได้ขอยากับทางตำรวจสน.ชนะสงคราม มาให้จ่านิวรับประทานบรรเทาอาการไข้หวัด
ต่อมาเวลา 17.00 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รองผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รองผบช.น. พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รองผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.จักรกริศน์ โฉสูงเนิน ผกก.สน.ชนะสงคราม พร้อมคณะเดินทางมาติดตามความคืบหน้า เปิดเผยว่าสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 14 คน โดยควบคุมตัวอยู่ที่ สน.พญาไท 10 คน และสน.ชนะสงคราม 4 คน
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่าแจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้งหมด 3 ข้อหา ได้แก่ มาตรา 116 ข้อหายุยงปลุกปั่นฯ มาตรา 215 ข้อหาผู้ใดมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปหรือกระทำการให้เกิดตวามวุ่นวายในบ้านเมือง และข้อหาขัดคำสั่ง คสช. ที่ 3/2558 ร่วมกันมั่วสุม หรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ทั้งนี้ในส่วนของนายนิกร ที่เป็นผู้ใช้คีบตัดแม่กุญแจ ประตู 3 ม.ธรรมศาสตร์ ต้องรอให้อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แจ้งดำเนินคดีก่อนถึงจะสามารถแจ้งข้อหา ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน อย่างไรก็ตามการสอบปากคำต้องใช้ระยะเวลาสักระยะ หากทำการสอบสวนเสร็จสิ้น จะคุมตัวแกนนำ ทั้ง 4 คนที่ถูกควบคุมตัว ที่สน.ชนะสงคราม ไปขออำนาจศาลเพื่อทำการฝากขัง ในส่วนของพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาหลายครั้ง ทั้งนี้ภาพรวมเหตุการณ์ชุมนุมตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุรุนแรง มีเพียงประชาชนเป็นลม 3 คน เท่านั้น
ระหว่างการให้สัมภาษณ์ นายเยี่ยมยุทธ สุทธิฉายา อายุ 25 ปี ผู้สื่อข่าวสำนักประชาไท สอบถาม พล.ต.อ.ศรีวราห์ ว่าในการชุมชมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่มีการนำโดรนบินด้วยหรือไม่ เนื่องจากระหว่างทำข่าวบริเวณหน้า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สังเกตเห็นโดรนบินอยู่ ซึ่งทางรอง ผบ.ตร. ยืนยันว่าเป็นโดรนของทางการ ได้หยิบยืมมาจากกองทัพเรือ โดยบินอยู่เฉพาะองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แต่นายเยี่ยมยุทธ ยืนยันว่าพบเห็นบินอยู่ระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กับ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ซึ่งเป็นแนวกั้นของเจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุม จากนั้นรอง ผบ.ตร.ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนสน.ชนะสงคราม สอบปากคำผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวในฐานะพยาน เพื่อทำการสืบสวนในการติดตามหาผู้กระทำความผิดต่อไป
