แกนนำ’อยากเลือกตั้ง’ยันชุมนุมต่อได้ แต่ขอหารือก่อน’จ่านิว’แนะตร.ปรับปรุงห้องขังสกปรก

ภายหลังได้แกนนำกลุ่มเลือกตั้ง รวม 15 คน รับการประกันตัว นายนรินทร์พงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ว่า ศาลให้ประกันตัวกลุ่มคนอยากเลือกตั้งทั้งหมดกำหนดวงเงิน 1 แสนบาท มีเงื่อนไขห้ามผู้ต้องหาชุมนุมทางการเมืองอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายแก่สาธารณชน ไม่ได้ห้ามการชุมนุมทางการเมือง แต่เป็นการห้ามการชุมนุมทางการเมืองที่ไม่ละเมิดต่อกฎหมาย ไม่เป็นภยันตรายต่อประชาชน ส่วนคำสั่งอนุญาตฝากขังเราจะอุทธรณ์ต่อไป

นายรังสิมันต์ โรม แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง กล่าวว่า สิ่งที่งยืนยันมาตลอดคือการชุมนุมอย่างสันติ ไม่ก่อความเดือดร้อนใดๆ เรามีเสรีภาพในการชุมนุม ซึ่งถูกรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ เราพยายามเจรจาหาหนทางอย่างสันติต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งที่ได้รับแม้ว่าเราจะได้แจ้งการชุมนุมตาม พ.ร.บ.ชุมนุมฯ แล้วก็ตาม พบว่าวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หลายกองร้อยได้ปิดถนน มากกว่าผู้ชุมนุมด้วยซ้ำ แล้วมาบอกว่าการชุมนุมของคนอยากเลือกตั้งจะสร้างความวุ่นวายต่อการจราจรไม่เรียบร้อย ทั้งที่เรามีความประสงค์จะใช้แค่ถนน 1 ช่องจราจรในการเดิน และจะเดินเมื่อพ้นชั่วโมงเร่งด่วนแล้วด้วยซ้ำ เรามีความปรารถนาดีอยากเห็นประเทศไทยคืนสู่ระบอบประชาธิปไตย อยากเห็นคนไทยมีโอกาสเลือกตั้งอีกครั้ง มีเยาวชน 7 ล้านที่ยังไม่เคยใช้สิทธิครั้งแรก เราออกมาต่อสู้ทั้งที่ราคาแสนแพงเพราะต้องแลกด้วยสิทธิเสรีภาพของเราเอง

นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึงกรณีคำสั่งยกคำร้องของศาลปกครองว่า ยืนยันต้องการให้ศาลปกครองคุ้มครอง แต่ คสช.บิดเบือนเอาคำวินิจฉัยศาลปกครองที่ยกคำร้องในการขอคุ้มครองชั่วคราวมาอ้าง การยกคำร้องไม่ได้หมายความว่าการชุมนุมผิดกฎหมายหรือไม่ผิดกฎหมาย แต่พยายามบิดเบือนว่าการยกคำร้องตรงนี้แสดงว่าเราผิดกฎหมาย ยืนยันว่าคำวินิจฉัยศาลปกครองไม่ได้กระทบการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งว่าถูกต้องหรือไม่ อารยประเทศไม่มีประเทศไหนบอกว่าประชาชนเรียกร้องการเลือกตั้งผิดกฎหมาย มีแต่ประเทศป่าเถื่อนเท่านั้นที่บอกว่าการเลือกตั้งผิดกฎหมาย

ด้าน น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา กล่าวถึงการชุมนุมที่หน้าอาคารสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นว่า ขณะนั้นมวลชนจำนวนหนึ่งมีความมุ่งมั่นจะไปถึงทำเนียบรัฐบาลให้ได้ จึงออกด้านหลัง ม.ธรรมศาสตร์ เดินเท้าไปจนถึงหน้ายูเอ็น เมื่อมีการปิดกั้นโดยเจ้าหน้าที่เราจึงนั่งลงหน้ายูเอ็นเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง แต่หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ล้อมวงกันเข้ามาเพื่อจับกุม เราก็เจรจาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ ยื่นข้อเสนอขอให้เราได้อ่านแถลงการณ์แล้วให้นำตัวพวกเราแกนนำไป สน. ดังนั้นคือเราเสนอมอบตัว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือเจ้าหน้าที่เขียนรายละเอียดว่าเป็นการจับกุม จึงเกิดการละเมิดกักขังโดยมิชอบถึง 2 คืน เป็นการจำกัดอิสรภาพของพลเมือง กรณีนี้ไม่มีความจำเป็นเลย อิสรภาพของเราไม่เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนแต่อย่างใด

Advertisement

ส่วนนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ “จ่านิว”กล่าวว่า ในวันที่ 23 พ.ค. ศาลเปิดทำการแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังควบคุมตัวเราต่อไปเพราะต้องแจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.ชุมนุมฯ เพิ่ม ซึ่งตอนแรกในคืนวันที่ 22 พ.ค.เราถามเจ้าหน้าที่แล้วบอกไม่แจ้งข้อหา ทำให้ต้องนอนห้องขังเพราะต้องรอแจ้งข้อหาอีก คดีอัตราโทษไม่สูงแต่ต้องขังเราเพิ่ม 1 วัน สภาพความเป็นอยู่ก็ไม่ถูกสุขลักษณะอนามัย สภาพห้องขังย่ำแย่ เราก็อดทนอยู่ สิทธิที่ผู้ต้องขังควรได้รับคือ การถูกควบคุมตัวต้องทำภายใต้ความถูกสุขลักษณะอนามัย ไม่ใช่สกปรกซอมซ่ออย่างที่เป็นอยู่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติควรจะปรับปรุงตรงนี้เพื่อสิทธิของผู้ถูกกล่าวหาทุกคน

ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวทางเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อไป นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ดำเนินกิจกรรมตามโรดแม็ปที่แถลงไว้ 7 ครั้ง และต่างจังหวัดอีกหลายครั้ง อาจจะต้องกลับไปเตรียมการอีกครั้งหนึ่ง เราต้องกลับไปคุย เพราะวันที่ 22 พฤษภาคม เป็นโรดแม็ปสุดท้าย ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ต้องขอเวลา แต่ยืนยันว่าไม่ใช่วันสุดท้ายของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เราจะยังคงเห็นการเดินหน้าต่อสู้ต่อไปจนกว่าประเทศไทยจะมีประชาธิปไตย มีการเลือกตั้ง ขณะที่นายสิรวิชญ์กล่าวเสริมว่า เงื่อนไขไม่ได้ห้ามชุมนุม แต่ห้ามชุมนุมขัดต่อกฎหมายและไม่อันตรายต่อสาธารณชน ยืนยันว่าเราไม่ขัดกฎหมาย แค่ขัดประกาศ คสช. ซึ่งไม่ยอมรับว่าเป็นกฎหมาย และไม่เคยสร้างอันตรายต่อสาธารณชน เรายังชุมนุมได้ต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image