‘ศรีวราห์’รับมอบผู้ต้องหาแก๊งเครือข่ายค้าอาวุธ ย้ำโยงก่อเหตุชุมนุม’คนอยากเลือกตั้ง’

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 25 พฤษภาคม ที่ กองบังคับการปราบ (บก.ป.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รอง ผบช.ส. พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทราพล.ต.ต.ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ ผบก.ปส.1 พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รอง ผบก.สส.ภ. ได้ทำการรับมอบตัวผู้ต้องหา คดีเครือข่ายค้าอาวุธสงคราม จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย นายวิชาญ รักชาติ อายุ 34 ปี นายวินัส ปริกเพชร อายุ 34 ปี ชาวจ.เชียงราย น.ส.ประคองศรี ศิริมั่น อายุ 39 ปี ชาวจ.นครราชสีมา นายสมบัติ แก้วสุข อายุ 29 ปี ชาวจ.ตาก และนายประดิษฐ์ทอง ชัยปัญหา อายุ 58 ปี ชาวจ.หนองคาย

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้มีข้อมูลว่าจะมีการขนย้ายอาวุธสงครามจำนวนมากในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ประกอบกับเป็นช่วงที่กลุ่มคนอยากเลือกตั้งได้มีการนัดชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาล เกรงว่าจะมีผู้ไม่หวังดีใช้โอกาสนี้นำอาวุธเข้ามาก่อให้เกิดความเสียหาย จึงได้มีการสั่งระดมกวาดล้างอาชญากรรมเกี่ยวกับอาวุธสงคราม จากการระดมกวาดล้างพบว่าเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย ตั้งด่านสกัดบริเวณหน้าวัดโค้งงาม ม.7 ต.โยนก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ได้ตรวจค้นรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีเทา หมายเลขทะเบียน กพ4475 เชียงราย พร้อมจับกุม นายพงษ์พัฒน์ ใจอินต๊ะ อายุ 28 ปี จ.เชียงราย และยึดกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. จำนวน 10,000 นัด สอบสวนนายพงษ์พัฒน์ ให้การซัดทอดว่ากระสุนดังกล่าวได้ถูกส่งต่อมาจากนายวิชาญ รักชาติ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/3 ม.1 ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ขยายผลการจับกุมทันที

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจภ.จว.พระนครศรีอยุธยาและเจ้าหน้าที่ทหารจึงได้เข้าตรวจจค้นบ้านนายวิชาญ ปรากฎว่าสามารถตรวจยึดกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 2 นัด ปลอกกระสุนขนาด9 มม. จำนวน 1 ปลอก กริ๊บกระสุนปืนกลM60 ขนาด 7.62 จำนวน 15 กก. สอบสวนนายวิชาญ รับสารภาพว่าสั่งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนจาก “จ่าโก” โดยได้นำไปแบ่งไปซุกซ่อนที่บ้านของ น.ส.ประคองศรี ศิริมั่น อายุ 39 ปี ที่บ้านเลขที่ 196 ม.4 ต.เริงราง อ.เสาไห้ จ.สระบุรี และ บ้านของวินัส ปริกเพชร อายุ 34 ปี บ้ายเลขที่ 196 ม.6 ต.บ้านหมอ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบบ้านที่ถูกซัดทอดทั้ง 2 จุด

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า จากการตรวจค้นทั้ง 2 จุด สามารถตรวจยึด ระเบิดขว้างM26A1 จำนวน 5 รูป ได้ที่บ้านน.ส.ประคองศรี และตรวจยึด กระสุนปืนขนาด 5.56 มม. จำนวน 4,542 นัด กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 25 นัด กระสุนปืนขนาด.38 จำนวน 25 นัด ปืนสั้นขนาด 6.35 มม. และ อาวุธปืนขนาด.38 อย่างล่ะ 1 กระบอก นอกจากนี้ นายวิชาญ ยังให้การว่าได้จําหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนให้แก่บุคคล ดังนี้ นายประดิษฐ์ทอง ชัยปัญญา อายุ 58 ปี จ.หนองคาย นายชาญณรงค์ สุวงค์ อายุ 31 ปี จ.เชียงราย นายสมบัติ แก้วสุข อายุ 29 ปี และ จ่าบี ไม่ทราบที่อยู่

จากการสอบปากคํา นายวิชาญ ยังให้การซึ่งมีความเชื่อมโยงว่ามีการซื้อ -ขายอาวุธกับ นายธนิต โอบอ้วน อายุ 53 ปี ชาวจ.อุบลราชธานี และ นางอภิสรา โภควัฒน์ อายุ 50 ปี ชาวจ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งมีบ้านพักอยู่ที่บ้านเลขที่ 127/5 ม.1 ต.บ้านโพธิ์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา จึงได้นํากําลัง เข้าตรวจค้น พบอาวุธปืน อาวุธสงคราม ชิ้นส่วนอาวุธสงคราม (M16) จํานวนมาก หลายรายการ โดยกลุ่มผู้กระทําความผิด เครือข่ายของนายวิชาญ มีลักษณะที่มีผู้ร่วมกระทําความผิดหลายคน แต่ละคนกระทํา ความผิดต่างกรรม ต่างวาระ ในหลายพื้นที่ต่อเนื่องกัน พนักงานสอบสวนพื้นที่รับผิดชอบได้สืบสวน สอบสวน รวบรวม พยานหลักฐานจนเป็นที่แน่ชัดและเชื่อได้ว่า มีผู้ร่วมกระทําความผิด จึงได้อนุมัติศาลออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

Advertisement

พล.ต.อ. ศรีวราห์ กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 5 คน มาจากการขยายผลจับกุมนายพงพัฒน์ ใจอินต๊ะ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ จากนั้นนายพงศ์พัฒน์ ให้การซักทอดว่า อาวุธของกลางดังกล่าวถูกส่งพัสดุมาจาก นายวิชาญ รักชาติ เจ้าหน้าที่จึงขยายผลจับกุม นายวิชาญ ก่อนจะขยายผลจับกุมเพิ่มอีก 4 ราย รวมเป็น 5 ราย ตามหมายจับศาล ในพื้นที่ต่างๆ จากการสอบปากคำเบื้องต้นทั้งหมดยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ และ มีการสั่งซื้ออาวุธสงครามจริง โดยนายวิชาญ หนึ่งผู้ต้องหาอ้างว่ามีติดต่อขอซื้อาวุธผ่านทางไลน์จากบุคคลหนึ่งแล้วนำไปขายต่อให้กับผู้ต้องหาอีก 4 คน ยอมรับว่ามีการทำการซื้อขายมาแล้ว 3-4 เดือน เบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้ต้องทั้งหมดยังคงให้การปฎิเสธ และ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเสื้อแดงฮาร์ดคอร์แต่อย่างใด

พล.ต.อ. ศรีวราห์ กล่าวว่า จากตรวจสอบทางการข่าวผู้ต้องหากลุ่มนี้มีความเกี่ยวข้อง และเตรียมนำอาวุธมาก่อเหตุในช่วงการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ยืนยันว่าการจับกุมอาวุธ และมีความเชื่อมโยงกลุ่มแดงฮาร์ดคอร์นั้น ไม่เป็นการจัดฉากแต่อย่างใด เนื่องจากมีพยานหลักฐานชัดเจนซึ่งเชื่อว่ายังมีอาวุธสงครามกระจายไปตามพื้นที่ต่างๆอีกเป็นจำนวนมากโดยการจับกุมครั้งนี้เป็นเพียง 1 ใน 3 ของอาวุธที่มีอยู่ทั้งหมดเท่านั้น

จากการตรวจสอบอาวุธของกลางพบว่าเคยมีการนำมาใช้ก่อเหตุในปี 2553 ประมาณ 15 เหตุการณ์ เนื่องจากมีเลขนัมเบอร์ตรงกัน ซึ่งได้สั่งการให้ตรวจสอบว่าตรงกับเหตุการณ์ไหนขณะนี้ได้สั่งการให้ตรวจสอบเป็นพิเศษสำหรับพื้นที่อิมพิเลียม ลาดพร้าว และ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ เนื่องจากทราบว่ากลุ่มแดงฮาร์ดคอร์ มีการเคลื่อนไหว และ อาจมีการเข้าไปแฝงตัวในบริเวณดังกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image