เพลิงไหม้โรงงานหมวกนิรภัย กว่า 3 ชม.คาดเสียหายนับ 10 ล้านบ.

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 31 พ.ค. ขณะที่ พ.ต.ท.สุรพงษ์ เผ่าภูธร สวป.สน.ท่าข้าม กำลังตรวจตราในพื้นที่ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ใน บริษัท เอส.วาย.เค ออโต้พาร์ต อิมปอร์ต-เอ็กซ์ปอร์ต จำกัด เลขที่ 243 ซอยท่าข้าม 8 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.อภิรัฐ พุ่มกุมาร ผกก.สน.ท่าข้าม แพทย์กู้ชีพ รพ.บางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล หน่วยก็ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู และรถน้ำดับเพลิงจากสมาคมอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยแห่งประเทศไทย รวม 30 คัน ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานอุตสาหกรรมผลิตหมวกนิรภัย ภายใต้ชื่อสินค้า “index” จากการตรวจสอบในส่วนของอาคารนั้นมีลักษณะเป็น ตึกขนาดใหญ่ สูง 5 ชั้น ปลูกติดกันหลายหลัง บนพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ โดยแต่ละอาคารมีทางเชื่อมต่อถึงกัน แบ่งเป็นโซนผลิตสินค้า โกดังเก็บสินค้า อาคารสำนักงาน และพื้นที่อเนกประสงค์ เบื้องต้นพบกลุ่มควันและแสงเพลิงพวยพุ่งจากชั้นล่าง บริเวณที่ทำการฝ่ายขัดและทำสีหมวกนิรภัยด้านหลัง ก่อนที่แสงเพลิงจะลุกลามขึ้นสู่ชั้นบนและขยายวงกว้างไปตามอาคารต่างๆ อย่างรวดเร็ว

นอกจากนั้นเนื่องจากภายในอาคารมีทั้งสี ทินเนอร์ และพลาสติกสำหรับผลิตสินค้า ทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัยและพนักงานดับเพลิง จึงช่วยกันใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง กว่าจะวางหัวฉีดควบคุมเพลิงเอาไว้ได้เฉพาะด้านนอก ต้องปล่อยให้แสงเพลิงด้านในเผาเชื้อเพลิงจนหมดซึ่งคาดว่าน่าจะกินเวลาไปอีกไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง จากการจัดชุดกู้ภัยภายในอาคารเข้าไปตรวจสอบพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นคนงาน 2 ราย ชื่อ นายนครินทร์ เถาว์นะ อายุ 41 ปี และ นายประยูร คำนกขุ้ม อายุ 43 ปี ถูกไฟลวกตามร่างกายและสำลักควันหมดสติ จึงนำร่างส่ง รพ.บางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล ให้แพทย์ทำการรักษาอาการอย่างเร่งด่วน

จากการสอบถาม นายวีระชัย อาจอนงค์ อายุ 60 ปี รปภ.ของโรงงาน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.ที่ผ่านมา ตนกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณหน้าโรงงาน จู่ๆ พบเห็นกลุ่มควันสีดำ พวยพุ่งจากบริเวณชั้น 1 ของอาคารด้านหลัง ซึ่งเป็นห้องทำงานของฝ่ายขัดและทำสีหมวกนิรภัย จากนั้นก็มีแสงเพลิงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากภายในอาคารมีท่อระบายอากาศเชื่อมถึงกันทุกชั้น ทำให้พนักงานทั้งชายและหญิง เกือบ 1,000 คน ต้องหนีตายกันอลหม่าน เบื้องต้นคาดว่า น่าจะมีเฉพาะคนได้รับบาดเจ็บ ไม่น่าจะมีผู้ใดได้รับอันตรายถึงชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้

ขณะที่ พ.ต.อ.อภิรัฐ พุ่มกุมาร ผกก.สน.ท่าข้าม เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุขณะนี้ประเมินมูลค่าความเสียหายไม่น่าต่ำกว่า 10 ล้านบาท และเกรงว่าอาคารจะเกิดการทรุดตัวเนื่องจากถูกเพลิงไหม้เป็นเวลานาน จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่สำนักงานเขต และทหาร เข้ามาช่วยบริหารจัดการบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ โดยหลังจากนี้จะสั่งการให้พนักงานสอบสวน เร่งสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ให้ได้มากที่สุด ส่วนเจ้าของโรงงานนั้นทราบว่าตอนนี้เดินทางไปธุระที่ต่างประเทศ อยู่ระหว่างเดินทางกลับมาให้ปากคำ ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบบริเวณโซนต้นเพลิงอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

Advertisement

ต่อมาเวลา 18.00 น. นายวันชัย ถนอมศักดิ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายประเสริฐ ฉวี อินทร์ ผู้อำนวยการเขตบางขุนเทียน พ.ต.อ.เทวานุวัฒน์ อนิรุทธเทวา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัย ดร.ประยูร ครองยศ รองผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ลงพื้นที่มาบัญชาการเหตุเพลิงไหม้บริษัทเอส.วาย.เคฯ ซึ่งควบคุมเพลิงได้แล้ว สิ่งสำคัญขณะนี้ต้องประเมินสภาพอาคารว่ามีความแข็งแรงเพียงพอหรือไม่ หากบิดเบี้ยวเสียทรงอาคารอาจจะถล่ม จึงเตือนเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติงานใกล้ตัวอาคารให้ถอยออกมาอยู่ในระยะที่ปลอดภัย รวมถึงการฉีดน้ำก็ต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะจะเห็นว่าเมื่อฉีดน้ำเข้าไปจะมีเศษกระเบื้องกระเด็นออกมา บางครั้งอาจมีเสียงระเบิดเป็นครั้งคราวจากถังเชื้อเพลิงหรือถังทินเนอร์ คาดว่าจะใช้เวลาในการควบคุมเพลิงประมาณ 2-3 ชั่วโมง ทั้งนี้เพลิงได้สงบแล้วแต่จะทำอย่างไรให้กลุ่มควันหมดไปซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการระบายควัน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บได้รับรายงานขณะนี้มีเพียง 2 ราย

ด้านพ.ต.อ.เทวานุวัฒน์ เปิดเผยว่า สาเหตุที่เพลิงได้ลุกไหม้มากเนื่องจากมีการเก็บสต็อกของเอาไว้ โดยเพลิงไหม้ได้เริ่มจากชั้น 4 ลงมาชั้น 3 ชั้น 2 ขณะนี้ชั้น3-4 ได้ดับแล้ว อยู่ในการดำเนินการดับในชั้น 2 ทั้งนี้การใช้น้ำเพียงอย่างเดียวเกรงว่าอาคารจะถล่มลงมา จึงได้เริ่มใช้โฟมมาผสมแล้ว ทั้งนี้เสาเริ่มแตกออกมาเป็นส่วนๆ แต่โครงเหล็กยังอยู่ เสาได้รับความร้อนอาจจะพังลงมาได้แต่มันไม่ใช่อาคารขนาดใหญ่

 

Advertisement

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image