เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 1 มิถุนายน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกรมศุลกากร กรมโรงงานอุตสาหกรรม เดินทางไปยังนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เพื่อตรวจค้นโรงงานที่ลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์มาแปรรูป โดยวิธีการสำแดงเท็จว่าเป็นเศษพลาสติก สืบเนื่องมาจากการตรวจค้นตู้สินค้าร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม และกรมศุลกากร ที่ท่าเรือแหลมฉบังเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา พบเป็นตู้คอนเทนเนอร์ 4 ตู้ ของ บริษัท ลองลัค พลาสติก แอนด์ เมทัล จำกัด ตั้งอยู่ จ.สมุทรสาคร เบื้องต้นเป็นขยะถุงพลาสติก อัดเป็นแท่งขนาด 1×1 เมตร รวมจำนวน 58 ตัน มีกลิ่นอับชื้นของขยะลอยออกมา
พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า จากการตรวจสอบเอกสารนำเข้า พบว่าขยะพลาสติกมาจาก ฮ่องกง ยูเอสเอ อังกฤษ แคนาดา ออสเตรีย เยอรมนี เกาหลี เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น มาเลเซีย จีน ไนจีเนรีย อิหร่าน สเปน เวียดนาม ตุรกี ฝรั่งเศส ปากีสถาน ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวม 35 ประเทศ ส่งมาลงที่ประเทศไทย
สำหรับประกาศการนำสินค้าประเภทพลาสติก จะต้องได้รับอนุญาตจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์มอบหมาย กรณีนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นผู้ออกใบอนุญาต คุณสมบัติพลาสติกดังกล่าวจะต้องแยกประเภท โดยไม่ผ่านการทำความสะอาดอีก และไม่ปะปนกัน แต่จากที่ดู ต้องมั่นใจว่าขยะพลาสติกนี้ต้องไม่ทำความสะอาดอีกมีกลิ่นเน่า ซึ่งการล้างทำความสะอาดจะต้องใช้น้ำมากขนาดไหน น้ำที่ล้างจะสร้างมลภาวะให้กับประเทศไทย
รอง ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า จากการตรวจของกรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นขยะพลาสติกไม่สะอาด ผิดตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ปี 2522 ว่าด้วยการนำเข้าพลาสติก ไม่สะอาด มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 5 เท่าของสินค้า และ พ.ร.บ.ศุลกากร สำแดงเท็จว่าเป็นวัตถุดิบ มีโทษปรับ 500,000 บาท บริษัทนี้มีโควต้า 20,000 ตัน จะตรวจสอบภาษี ด้วยทั้งนี้เป็นมาตรการหยุดยั้งการนำขยะพิษทั่วโลกมาทิ้งประเทศไทย ไม่เป็นศูนย์กลางขยะโลก
