ปปง.แถลงพบ 16 คนไทย-นักการเมือง-ธุรกิจ เกี่ยวปานามาเปอร์ส เร่งประสานข้อมูล สอบทางลับ

พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาราชการเลขาธิการปปง.แถลงข่าวกรณีปานามาเปเปอร์ส ที่สำนักงานปปง.

ปปง.ระบุพบ 16 รายชื่อคนไทย ฐานข้อมูล ไอซีไอเจ เร่งประสานข้อมูล เดินหน้าสอบทางลับ ยังไม่ยืนยันว่าผิดหรือไม่

กรณีการนำเสนอข่าวเครือข่ายผู้สื่อข่าวสืบสวนสอบสวนนานาชาติ (International Consortional Consortium Of Investigative Journalists : ICIJ ) ร่วมกับหนังสือพิมพ์ Suddeutsche Zeitung ของประเทศเยอรมนี เปิดเผยข้อมูลที่ได้มาจากบริษัท Mossack Fonseca มอสแสค ฟอนเซกา ในประเทศปานามา หรือ “ปานามา เปเปอร์ส” พบว่ามีผู้นำประเทศในปัจจุบัน 12 ประเทศ นักการเมืองกว่า 200 คน ธนาคารใหญ่กว่า 350 แห่ง และมีรายชื่อคนไทย 21 คน เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและเลี่ยงภาษีนั้น

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 8 เมษายน ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาราชการเลขาธิการ ปปง. แถลงว่า สำนักงาน ปปง. บูรณาการข้อมูลกับเครือข่ายการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินข้ามชาติทั่วโลกกว่า 150 ประเทศ สำหรับกรณีที่เป็นข่าวนั้น มิใช่หน่วยงานของรัฐโดยตรง สำนักงาน ปปง. จึงได้ส่งหนังสือสอบถาม ประสานงานไปยังแหล่งที่มาของข้อมูล ได้แก่ หน่วยข่าวกรองทางการเงิน (FINANCAIL INTELLIGENCE UNIT-FIU) ของประเทศต่างๆ รวมทั้งเครือข่ายผู้สื่อข่าวสืบสวนสอบสวนนานาชาติ และสำนักพิมพ์ ซุสดอยเชอร์ ไซตุง (Suddeutsche Zeitung) ของประเทศเยอรมนี ขอความร่วมมือให้ส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องมายังสำนักงาน ปปง. เพื่อสอบทานยืนยันความถูกต้องของข้อมูล เบื้องต้นตอบกลับมาจากสำนักงาน ปปง.ประเทศปานามา แล้วว่าอยู่ระหว่างดำเนินการ ส่วนสำนักข่าวที่เผยเแพร่ข้อมูล กำลังรอการยืนยันข้อมูล

เช็ก”ไอซีไอเจ”พบชื่อ16คนไทย

Advertisement

พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบฐานข้อมูลของ ICIJ พบว่ามีรายชื่อบุคคลและนิติบุคคลที่มีความเกี่ยวพันกับไทย รวม 780 รายชื่อ แบ่งเป็นรายชื่อบุคคลไทย 411 รายชื่อ บุคคลต่างชาติ 262 รายชื่อ ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับประเทศไทย นิติบุคคล 46 บริษัท ที่จดทะเบียนมีความเกี่ยวข้องกับไทยและรายชื่อซ้ำ 61 รายชื่อ ซึ่งบุคคลและนิติบุคคลดังกล่าวอาจเป็นนักลงทุนที่สนใจลงทุนในต่างประเทศ เนื่องจากมีผลกำไรมากกว่าการลงทุนในประเทศไทย ทั้งนี้ จากข้อมูลของสื่อมวลชนปรากฏมีชื่อคนไทย 21 รายชื่อนั้น ปปง.ตรวจสอบฐานข้อมูลของ ICIJ พบว่ามีเพียง 16 รายชื่อคนไทยที่ปรากฏระบุว่าอยู่ในปานามาเปเปอร์ส บุคคลและนิติบุคคลดังกล่าวอาจเป็นนักลงทุนที่สนใจลงทุนในต่างประเทศเนื่องจากมีผลกำไรมากกว่าการลงทุนในประเทศไทยก็เป็นไปได้

“จากการตรวจสอบในเบื้องต้นขณะนี้ยังไม่อาจชี้ชัดได้ว่าบุคคลตามข่าวมีความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน การที่สำนักงาน ปปง.จะเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินหรือความผิดฐานฟอกเงินได้นั้น บุคคลที่ถูกตรวจสอบจะต้องมีพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐานหรือความผิดฐานฟอกเงิน อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ ปปง.ดำเนินการได้เพียงการตรวจสอบธุรกรรมฐานข้อมูลพื้นฐาน ของทั้ง 16 รายชื่อที่ปรากฏแต่เป็นการกระทำที่ไม่กระทบสิทธิ เนื่องจากยังไม่มีการยืนยันข้อมูล” พ.ต.อ.สีหนาทกล่าว

แฉ15จว.อ้างจดทะเบียนบริษัท

เลขาธิการ ปปง.กล่าวอีกว่า บุคคลในรายชื่อ 719 รายชื่อ หักรายชื่อซ้ำแล้วนั้นมีสถานะในบริษัทเป็นทั้งผู้ถือหุ้น กรรมการ และผู้รับประโยชน์ทอดสุดท้าย จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในต่างประเทศ 48 บริษัท นอกจากนี้ ยังพบว่าสถานที่ในประเทศไทยที่กลุ่มคนที่ปรากฏรายชื่อนำไปอ้างอิงจดทะเบียน จัดตั้งบริษัทมีจำนวน 634 ที่อยู่ สำหรับจังหวัดที่ได้รับความนิยม 15 อันดับแรก นำที่อยู่ไปจดทะเบียนที่ ปปง.รวบรวมได้ คือ 1.กรุงเทพฯ 418 แห่ง 2.ภูเก็ต 88 แห่ง 3.นนทบุรี 15 แห่ง 4.พัทยา 13 แห่ง 5.สมุทรปราการ 7 แห่ง 6.หาดใหญ่ จ.สงขลา 4 แห่ง 7.สมุทรสาคร 3 แห่ง 8.ปทุมธานี 3 แห่ง 9.สุราษฎร์ธานี 3 แห่ง 10.เชียงใหม่ 2 รายชื่อ 11.ระยอง 2 แห่ง 12.ประจวบคีรีขันธ์ 2 รายชื่อ 13.นครราชสีมา 1 แห่ง 14.ขอนแก่น 1 แห่ง และ 15.อื่นๆ ทั้งนี้ จะพบข้อสังเกตว่าเมืองหรือจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่ปรากฏส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่ที่ชาวต่างชาติที่นำไปอ้างอิงการจดทะเบียน

พ.ต.อ.สีหนาทกล่าวต่อว่า การทำงานของ ปปง.นั้นเป็นการดำเนินการเชิงลับ จึงไม่สามารถชี้แจงได้ว่าอยู่ระหว่างตรวจสอบบุคคลใด หากมีความชัดเจนจะสืบสวนสอบสวน ตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อรวบรวมข้อมูลหลักฐานเสนอคณะกรรมการธุรกรรมเพื่อนำไปสู่การยึดหรืออายัดหรือทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดและผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินต่อไป

ปปง.ลุยตรวจสอบทางลับ

เมื่อถามว่า ปปง.จะสร้างความเชื่อมั่นในการตรวจสอบบุคคลที่ปรากฏรายชื่ออย่างไร เพราะส่วนใหญ่เป็นบิ๊กเนม และกลุ่มนักธุรกิจสำคัญ พ.ต.อ.สีหนาทกล่าวว่า หากบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่กระทำความผิดตามมูลฐานความผิดของ ปปง. สามารถตรวจสอบได้ ที่ผ่านมาเคยพบบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐาน ได้ดำเนินการลักษณะนี้มาก่อนแล้ว อาทิ กรณีของอดีตผู้บริหารของบริษัท (ชาวต่างชาติ) รายหนึ่ง มีพฤติการณ์กระทำความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกง และนำเงินที่ได้จากการกระทำความผิดมูลฐานไปเปิดบริษัทลงทุนในต่างประเทศอันมีลักษณะเป็นการฟอกเงินในกลุ่มประเทศที่เป็นข่าว สำนักงาน ปปง.จึงได้ตรวจสอบเชิงลับ และนำมาซึ่งการยึดอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดดังกล่าวไปแล้วกว่า 300 ล้านบาท และบุคคลนี้มีรายชื่อในฐานข้อมูลของ ICIJ ด้วยเช่นกัน

“ตอนนี้ ปปง.ไทย ยังรอให้หน่วยงานราชการของปานามายืนยันข้อมูลที่ชัดเจน และเชื่อว่า ปปง.หลายประเทศขอตรวจสอบข้อมูลไปยัง ปปง.ประเทศปานามา ที่เป็นต้นทางของข้อมูลข่าวสาร จึงขอทำความเข้าใจว่าขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่เป็นทางการ มีแต่ข้อมูลข่าวสารว่อนไปมาในอินเตอร์เน็ต ดังนั้นในการตรวจสอบเพื่อไม่ให้เป็นการกระทบสิทธิส่วนบุคคลจำเป็นต้องดำเนินการทางลับ ปปง.ยังไม่สามารถเชิญบุคคลทั้ง 16 รายเข้ามาให้ปากคำได้ เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล” พ.ต.อ.สีหนาทกล่าว

เผยมีชื่ออดีตนักการเมืองโผล่

พ.ต.อ.สีหนาทกล่าวต่อว่า หากได้รับข้อมูลยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วปรากฏว่ามีรายชื่อคนไทย และมีสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ปปง.จะประสานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ตรวจสอบว่ามีพฤติการณ์ปั่นหุ้นหรือซื้อขายไม่เป็นธรรมหรือไม่ สำหรับอดีตนักการเมืองในชั้นต้นจะตรวจสอบเพียงว่าเป็นธุรกรรมต้องสงสัย ได้รายงานทรัพย์สินต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือไม่ ในส่วน ปปง.จะยังไม่ดำเนินการใดๆ จนกว่าจะมีความชัดเจนว่ากระทำผิดตามมูลฐานฟอกเงิน ขอให้มั่นใจระบบตรวจสอบที่เป็นมาตรฐานสากล

“ทั้งนี้ ไม่พบรายชื่อนักการเมืองชุดปัจจุบัน มีเพียงอดีตนักการเมืองบางคน ส่วนจะมีรายชื่อพระสงฆ์หรือไม่ต้องรอผลการตรวจสอบจากต้นทาง รายชื่อหากต้องการทราบให้ไปดูที่เว็บไซต์เอง ส่วนใครที่นำรายชื่อมาเปิดเผยต้องรับผิดชอบ” พ.ต.อ.สีหนาทกล่าวพ.ต.อ.สีหนาท กล่าว

image

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image