ปลัดฯยุติธรรม แจงค้นยิบ นศ.หญิง ย้ำต้องไม่อนาจาร ละเมิดร้องได้

นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม

จากกรณี นางสาวกรกนก คำตา นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 1 ในผู้ต้องหาคดี “นั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์” ในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2258 เรื่องห้ามชุมนุมมั่วสุมเกิน 5 คน โดยหลังอัยการสั่งฟ้อง จำเลยถูกส่งตัวไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ก่อนศาลจะอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในเวลา 20.20 น. โดยนางสาวกรกนกโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Pup Kornkanok Khumta เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นขณะถูกคุมตัวอยู่ในทัณฑสถานหญิงกลาง ทำนองว่า ถูกดำเนินการเสมือนนักโทษทั้งที่ศาลยังไม่ตัดสิน เป็นคดีเกี่ยวกับการเมืองอยู่ระหว่างการยื่นประกัน โดยผู้คุมสั่งให้ตรวจภายใน ถูกสั่งให้นั่งลงกับพื้นด้วยเสียงอันดัง พร้อมให้ถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด ก่อนโยนผ้าถุงให้หนึ่งผืน ท่ามกลางผู้คุมนับร้อย รวมทั้งเจ้าหน้าที่รู้ว่าการยื่นขอประกันผ่านแล้ว แต่ไม่มีใครแจ้ง กลับนำตัวเข้าสู่กระบวนการเป็นนักโทษครบทุกอย่าง ทั้งที่ไม่จำเป็น ซึ่งตลอดเวลาที่อยู่ในเรือนจำต้องถูกเปลือยกายให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่กระทรวงยุติธรรม นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณี น.ส.กรกนกโพสต์เฟซบุ๊ก ว่า ได้สอบถามไปยังผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลางแล้ว ทราบว่ามีการรับตัวนักศึกษารายดังกล่าวมายังเรือนจำ โดยเดินทางมาจากศาลและทราบว่ามีการตรวจค้นร่างกายจริง เนื่องจากเป็นระเบียบปฏิบัติของเรือนจำ ผู้ต้องหาที่มาจากศาล ก่อนเข้าเรือนจำจะต้องถูกตรวจค้นร่างกายทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีหรือศาลตัดสินแล้ว หากถูกส่งตัวมายังเรือนจำต้องถูกตรวจค้นร่างกายโดยละเอียด ทำประวัติ เนื่องจากเป็นระเบียบของเรือนจำโดยทั่วไป เพื่อตรวจหายาเสพติดที่จะซุกซ่อนเข้ามาในเรือนจำ ทั้งนี้ คงไม่สามารถเลือกปฏิบัติหรือให้เจ้าหน้าที่ใช้ดุลยพินิจตรวจคดีไหนไม่ตรวจคดีไหนคงไม่ได้ หากจะถามว่าเป็นการละเมิดสิทธิหรือไม่ คงไม่ใช่ เพราะการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติภายเงื่อนไข คือ 1.ต้องไม่มีลักษณะในการกลั่นแกล้ง 2.ไม่เป็นลักษณะการกระทำรุนแรง 3.ต้องไม่ใช่การประจานหรือทำให้อับอาย และ 4.ต้องไม่เป็นลักษณะการกระทำอนาจาร

นายชาญเชาวน์ กล่าวต่อว่า กระทรวงยุติธรรมจะนำข้อสังเกตหรือข้อท้วงติงดังกล่าวไปประกอบการจัดหาเครื่องสแกนร่างกาย เพื่อตรวจค้นอย่างมีประสิทธิภาพ แทนเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตามจะทบทวน กำชับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติในลักษณะดังกล่าวอย่างเคร่งครัด และหากพบว่ามีการกระทำผิดเงื่อนไข สามารถร้องเรียนมายังกระทรวงยุติธรรมได้ เพื่อจะได้ตรวจสอบดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่

“เรือนจำทุกเรือนจำต้องปฏิบัติในลักษณะดังกล่าวทุกแห่ง ต้องให้ผู้ต้องขังเปลี่ยนเสื้อผ้าค้นตัวอย่างละเอียด เพื่อตรวจค้น ผู้ชายต้องล้วงทวารหนัก ผู้หญิงต้องตรวจช่องคลอด เพื่อป้องกันไม่ให้ซุกซ่อนยาเสพติด ตอนนี้เครื่องมือที่ดีทีสุดคือเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ คงไม่มีเจ้าหน้าที่อยากจะเอามือล้วงก้นผู้ต้องขังทุกคนในสภาพความจริง”นายชาญเชาวน์กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image