เหยี่ยวถลาลม : สุจริตและเสรี 28พ.ย.61

ถ้าไม่ได้เชียร์ฝ่ายใด ขอให้ลองทำใจให้นิ่งๆ แล้วนึกดูสิว่า แค่ “คนหนึ่ง” ให้สัมภาษณ์ถึงการเมืองในประเทศที่ตัวเองเคยอยู่และเคยใหญ่ แค่ “คำคน” นั้นอาจส่งผลถึงขั้น “ยุบพรรคการเมือง” พรรคหนึ่งกันเลยเชียวหรือ

เปรียบกับพฤติการณ์ ที่ “คนในรัฐบาล” ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา แล้วยังนั่งอยู่ในคณะรัฐบาล พร้อมสรรพทั้งการพูดพล่ามและขับเคลื่อนกระทำการ โปรยหว่านเม็ดเงินงบประมาณแผ่นดินซึ่งมาจากภาษีของประชาชน ได้คะแนนนิยมไปในตัวโดยไม่ต้องใช้คำว่า รณรงค์หาเสียง

ได้เปรียบพรรคการเมืองอื่นๆ นักการเมืองอื่นๆ ชัดๆ ไม่เช่นนั้นแล้ว “พรรคการเมือง” ที่ถือกำเนิดขึ้นในคณะรัฐบาล ซึ่งเปรียบไปก็เหมือนเด็กเมื่อวานซืน จะกล้าประกาศหรือว่า “จะกวาด 350 ที่นั่ง”

เอาความมั่นใจมาจากไหน ถึงได้อหังการกันขนาดนั้น

Advertisement

ใช่หรือไม่ว่า “ลูกพี่” ต้องใหญ่ และ “แผนประทุษกรรม” ทางการเมืองก็ต้อง “แน่” !

ขั้นแรก “กติกา” (รัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีไซน์มาเพื่อพวกเรา)

ขั้นที่ 2 ปิดตา ปิดปาก ใช้กฎหมายใช้คำสั่งมัดมือมัดเท้าอย่าให้ได้เคลื่อนไหวสะดวก

Advertisement

ขั้นที่ 3 “ใช้พลังดูด”

เพียงเพื่อประกาศชัย “เสียงข้างมาก” ในสภา จงอย่าได้คำนึงถึงอุดมการณ์

และขั้นที่ 4 ใช้ “วิเศษนิยม” เป็นทีเด็ด เคล็ดลับก่อนถึง “วันกาบัตร”

โฆษกรัฐบาลเพิ่งจะออกมาทวงบุญคุณกับผู้มีรายได้น้อยทั้งหลายว่า นับตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2560-22 พฤศจิกายน 2561 รัฐบาล (คสช.) สนับสนุนช่วยเหลือไปแล้ว 49,879 ล้านบาท

อ่านว่า สี่หมื่น-เก้าพัน-แปดร้อย-เจ็ดสิบเก้า-ล้านบาท

และปีใหม่นี้ รัฐบาลเตรียมอัดฉีดเงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยอีกด้วยวงเงิน 5.87 หมื่นล้านบาท

อ่านว่า ห้าหมื่น-แปดพัน-เจ็ดร้อย-ล้านบาท

แค่ 1 ปี กับ 2 เดือน รัฐบาลนี้โปรยหว่านเงินลงไปแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท ให้กับ “กลุ่มเป้าหมาย” เกือบ 15 ล้านคน

ห้ามใครนำไปเปรียบเทียบและเรียก “ประชานิยม” อย่างเด็ดขาด เพราะมีนิยามจาก วิษณุ เครืองาม มาแล้วว่า “วิเศษนิยม”

พฤติการณ์ทั้งหมด เกินกว่าคำว่า หาเสียง ล่วงเลยคำว่า อิทธิพลบงการ ครอบงำ

แต่ทำไม ทุกคนทุกฝ่ายที่ว่า มีอิสระ เป็นกลาง ปราศจากการถูกครอบงำ กลับนั่งเฉย ไม่มีใครว่าอะไรสักคำ !?!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image