เมื่อวันที่ 31 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร. เพิ่มศักดิ์ มกราภิรมย์ นักวิชาการด้านสิทธิมนุษยชน เผยแพร่ประกาศเจตนารมย์ ลงวันที่ 30 มกราคม มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรู้สึกไม่ไว้วางใจรัฐบาลจากกรณีการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 นอกจากนี้ ยังประกาศว่าตนจะขึ้นรถประจำทาง เดิน วิ่ง และปั่นจักรยานตลอดเดือนกุมภาพันธ์เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ปัญหามลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้นในขณะนี้
ข้อความประกาศเจตนารมย์ มีดังนี้
ประกาศเจตนารมย์และความรู้สึกไม่ไว้วางใจรัฐบาลและ กทม.
การบริหารงานของรัฐบาลและ กทม. ไม่มีประสิทธิภาพ ปล่อยให้คุณภาพอากาศเลวร้ายจากฝุ่น 2.5 pm จนวิกฤติถึงขั้นเป็นภัยต่อสุขภาพและชีวิตประชาชนกว่า 10 ล้านคน ใน กทม. ในพื้นที่ปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียง โดยแก้ปัญหาไม่ได้เพราะไม่พยายามแก้ปัญหาอย่างจริงจัง จึงเป็นความผิดพลาดบกพร่องที่ไม่สุจริต ขั้นที่ 1
การที่รัฐบาลและ กทม. ไม่รู้ข้อมูลหรือรู้แล้วไม่ชี้แจงให้ข้อมูลประชาชนทราบว่าปัญหาฝุ่นควัน 2.5 pm. มีมากเกินมาตรฐานความปลอดภัยต่อสุขภาพและชีวิต มีสาเหตุมาจากอะไร ทำให้ประชาชนและองค์กรภาคส่วนอื่นๆไม่สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการแก้ปัญหาได้ ถือว่าเป็นความผิดพลาดบกพร่องยิ่งขึ้น ขั้นที่ 2
การที่รัฐบาลและ กทม. ไม่จัดหาอุปกรณ์เช่นหน้ากากกันฝุ่น หรืออุปกรณ์ป้องกันอื่นที่มีประสิทธิภาพ มาบริการให้ประชาชนให้เพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กเล็กและคนชราที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ใช้ป้องกันฝุ่นอันตราย ปล่อยให้ประชาชนแก้ปัญหากันเองตามยถากรรม ถือว่าเป็นความผิดพลาดบกพร่องที่สุด ขั้นที่ 3 ซึ่งถือว่าเป็นความผิดพลาดบกพร่องที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสุขภาพและชีวิตของประชาชนอย่างกว้างขวางและรุนแรง
ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ผมจึงขอแสดงเจตจำนงและความรู้สึกไม่พอใจและไม่ไว้วางใจต่อรัฐบาล ในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมของประเทศ และต่อ กทม. ในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมของกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ ตั้งแต่ วันที่ 30 มกราคม 2562 จนกว่าสภาพอากาศจะพ้นจากวิกฤติจากฝุ่น pm. 2.5
จึงขอประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน
“แถลงคำประท้วงเพื่อปกป้องรักษาสิทธิของประชาชนในการมีชีวิตอยู่รอดจากมลพิษอากาศต่อรัฐบาลและ กทม. ไปแล้ว ก็ถึงคราวที่ต้องทำหน้าที่พลเมืองดีกันด้วยถึงจะดีนะครับ
ขอเสนอว่า ถ้าช่วยกันทำให้กุมภาพันธ์เป็นเดือนแห่งการร่วมมือร่วมใจกันลดหมอกควันด้วยวิธีการต่างๆ ที่เหมาะกับแต่ละคนเมื่อต้องเดินทาง เช่น
..ใครโบกรถเพื่อนบ้านไปได้ขอให้โบก
..ใครขึ้นรถโดยสารได้ขอให้ขึ้น
..ใครปั่นจักรยานได้ขอให้ปั่น
..ใครวิ่งได้ขอให้วิ่ง
..ใครเดินได้ขอให้เดิน
..ใครเดินไม่ได้ก็อย่าให้ถึงกับคลานไป 555 แต่ขอให้เอางานมาทำที่บ้านซะเลย
ถ้าช่วยกันจริงจังอีกสัก 1 เดือน ท้องฟ้าคงใส ต้องรอดตายหมู่แบบ holocaust จากฝุ่น pm 2.5 แน่นอน
แต่ถ้าต้องสูดฝุ่น pm 2.5 อยู่ระดับที่เป็นอยู่ทุกวันนี้อีก 1 เดือนเต็มหรือนานกว่านี้ คงไม่ต้องทำนายก็รู้ว่า ใครอ่อนแอมากๆอาจป่วยจนตาย ไม่ถึงตายก็คงป่วยหนักไร้เรี่ยวแรงทำการงานหรือป่วยติดเตียงไปยาวๆ
ที่สำคัญคือต้องจ่ายเงินค่าหน้ากาก และค่ารักษาพยาบาลกันอาน
เสียทั้งสุขภาพเสียทั้งเงินอย่างนี้ไม่สนุกแน่ใช่ไหมครับ
สำหรับผม จะทำตามที่ตัวเองเสนอ คือปั่น วิ่ง เดิน และขึ้นรถประจำทางตลอดเดือนแน่นอนครับ”