‘ท็อป’ นำทีมเก็บขยะชายหาด กระตุ้นจิตสำนึก ลดปัญหาขยะทะเล ชูหาดเจ้าสำราญ ตัวอย่างชุมชนร่วมด้วยช่วยกัน

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เดินทางไปยังหาดเจ้าสำราญ อ.เมือง จ.เพชรบุรี เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนร่วมกันดูแลและรักษาชายหาดให้สะอาดปราศจากขยะ ช่วยลดการสูญเสียสัตว์ทะเลหายาก ตลอดจนเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการลดใช้ถุงพลาสติกและโฟม ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม พกพาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมี นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นายกเทศมนตรีตำบลหาดเจ้าสำราญ ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเพชรบุรี ตลอดจนศิลปิน ดารานักแสดง นักท่องเที่ยว ร้านค้า และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 500 คน

นายวราวุธกล่าวว่า ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นประธานอาเซียนในปีนี้ ภายใต้แนวคิดหลัก “Advancing Partnership for Sustainability” หรือ “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” และด้วยความตระหนักถึงปัญหา “ขยะทะเล” ที่ส่งผลกระทบต่อมหาสมุทร ระบบนิเวศทางทะเล การประมง และการท่องเที่ยวของทั้งภูมิภาคอาเซียน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจึงได้นำผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษด้านขยะทะเลเข้าสู่ที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 34 ที่ผ่านมา และที่ประชุมได้มีมติรับรองปฏิญญากรุงเทพฯ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาขยะทะเลให้เกิดผลเป็นรูปธรรม นับเป็นหนึ่งในความคืบหน้าสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมว่าด้วยขยะพลาสติกในอาเซียน ทั้งนี้ ปัญหาขยะทะเลไทยเป็นหนึ่งในหลายปัญหาที่สะท้อนให้เห็นว่าประเทศเรายังขาดการจัดการขยะอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ เมื่อประชาชนยังเห็นแก่ความสะดวกสบาย จึงสร้างขยะมากมายรอบตัว โดยเฉพาะการใช้ถุงพลาสติกที่ย่อยสลายได้ยากและเป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมและเป็นขยะที่ถูกพบมากที่สุดในทะเลไทย กระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่งทะเล เกิดอันตรายต่อสัตว์ทะเลหายากที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการกินขยะพลาสติก ไม่ว่าจะเป็นเต่า พะยูน วาฬ โลมา ที่ต่างตกอยู่ในสภาวะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ โดยเฉพาะวาฬบรูด้าที่มีอัตราการเกิดกับการตายเท่ากัน คืออยู่ที่ ร้อยละ 4-5 ซึ่งเป็นอัตราที่น้อยกว่าสัตว์ทะเลกลุ่มเสี่ยงชนิดอื่นๆ การปรากฏตัวของวาฬบรูด้าในน่านน้ำทะเลไทยนั้นจึงเป็นสิ่งที่บ่งชี้ให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของระบบนิเวศใต้ท้องทะเล

รัฐมนตรี ทส.กล่าวต่อว่า หาดเจ้าสำราญอยู่ในพื้นที่ตำบลหาดเจ้าสำราญ เป็นหาดทรายขาว มีระยะทางยาวประมาณ 7 กิโลเมตร บรรยากาศเงียบสงบ มีสัตว์ทะเลที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งปูเสฉวน หอย แมงกะพรุน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นแหล่งอาศัยและหากินของวาฬบรูด้า ซึ่งมักพบเห็นในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคมของทุกปี ดังนั้น การที่เราทิ้งขยะสู่ท้องทะเลทั้งทางตรงและทางอ้อมก็เหมือนเรากำลังทำลายบ้านของวาฬบรูด้า รวมถึงสัตว์ทะเลชนิดอื่นๆ และจะส่งผลกระทบย้อนกลับมาสู่พวกเราทุกคน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหาดเจ้าสำราญจะมีการจัดการขยะอย่างเป็นระบบ มีกิจกรรมสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนในการรักษาชายหาดให้สะอาดปราศจากขยะอยู่แล้ว พวกเราทุกคนก็ยังคงต้องช่วยกันดูแลรักษาชายหาดแห่งนี้ต่อไป และกิจกรรมในวันนี้เป็นกิจกรรมที่ทำให้พวกเราทุกคนได้แสดงถึงจุดยืนและศักยภาพในการช่วยเหลือโลกของเราได้เป็นอย่างดี

Advertisement

“เราทุกคนเป็นต้นเหตุทำให้เกิดขยะและเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากขยะ การป้องกันและแก้ไขปัญหาจึงเป็นเรื่องของเราทุกคนที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการจัดการปัญหาขยะจากบนบก เพื่อป้องกันไม่ให้ลงสู่ทะเล เริ่มได้ตั้งแต่ครัวเรือน จัดการขยะที่ต้นทาง ใช้หลัก 3Rs  คือใช้น้อย ลดปริมาณขยะให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด (Reduce) ใช้ซ้ำ หมุนเวียนใช้ใหม่ก่อนทิ้ง (Reuse) และนำไปแปรรูปเพื่อมาใช้ใหม่ (Recycle) ที่สำคัญ ทิ้งขยะให้เป็นที่เป็นทาง ซึ่งจะช่วยทำให้ระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่งมีความสมบูรณ์ขึ้น เมื่อปัญหาขยะทะเลลดลง ชายหาดปลอดขยะ ทรัพยากรทางทะเลอุดมสมบูรณ์ ย่อมส่งผลดีต่อพวกเรา ลูกหลานของเรา และโลกของเรา”

นายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัด ทส.กล่าวว่า ปัญหาขยะกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อมนุษย์และการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศ โดยในปี 2560 พบปริมาณขยะมูลฝอยในจังหวัดชายฝั่งทะเล 23 จังหวัด มากถึง 11.47 ล้านตัน กำจัดอย่างถูกต้อง 6.89 ล้านตัน นำไปใช้ประโยชน์ 3.02 ล้านตัน และกำจัดไม่ถูกต้อง 1.55 ล้านตัน ซึ่งบางส่วนไหลลงสู่ทะเล ประมาณ 50,000-60,000 ตันต่อปี ถุงพลาสติกเป็นขยะทะเลที่พบมากที่สุด ประเมินได้ว่าแต่ละปีจะมีปริมาณขยะพลาสติกในทะเลประมาณ 50,000 ตัน หรือ 750 ล้านชิ้น โดยภัยเงียบสำคัญจากถุงพลาสติกที่เป็นขยะในท้องทะเล คือไมโครพลาสติก หรือชิ้นส่วนพลาสติกที่มีขนาดเล็กกว่า 5 มิลลิเมตร ก่อให้เกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่ โดยพลาสติกจะแตกย่อยเป็นปิโตรเคมีและจะเล็กลงเรื่อยๆ จนมองไม่เห็น แต่ยังคงมีสารเคมีหลงเหลืออยู่ แพลงตอนจะกินไมโครพลาสติกเข้าไป ปลาเล็กกินแพลงตอน ปลาใหญ่จะกินปลาเล็ก แล้วมนุษย์ก็จะกินปลาใหญ่อีกที ท้ายที่สุด ไมโครพลาสติกจะเข้าไปสะสมในร่างกายของมนุษย์ ทำให้เกิดอันตราย

นายรัชฎากล่าวว่า เทศบาลตำบลหาดเจ้าสำราญถือเป็นตัวอย่างของชุมชนที่มีการจัดการปัญหาขยะมูลฝอยได้อย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การคัดแยกขยะมูลฝอยที่แหล่งกำเนิด ทั้งการลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัด (Reduce) การนำขยะกลับมาใช้ซ้ำ (Reuse) และการนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) มีการกำหนดจุดคัดแยกขวดพลาสติก ขวดแก้ว และกระป๋องเครื่องดื่มบริเวณสวนภูมิทัศน์ที่ชายหาด เกิดเป็นกิจกรรม “เปลี่ยนขยะ ให้เป็นบุญ” รับบริจาคขยะรีไซเคิลที่คัดแยกแล้วมาจำหน่าย นำรายได้ไปทำบุญกับวัดในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลหาดเจ้าสำราญ ซึ่งสามารถช่วยลดปริมาณขยะ จากเดิมที่ใช้รถบรรทุกจัดเก็บคันละ 2 รอบ เหลือเป็นคันละ 1 รอบต่อวัน ช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ทางเทศบาลต้องรับภาระ จากปี 2560 เสียค่าใช้จ่าย 729,463 บาท มาในปี 2561 เสียค่าใช้จ่าย 704,611 บาท เป็นต้น

กิจกรรมการจัดเก็บขยะชายหาด Good Day Say No Plastic Bag On The Beach “ดูแลโลกเพื่อให้โลก…ดูแลเราตลอดไป” ในวันนี้ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากเทศบาลตำบลหาดเจ้าสำราญ ตลอดจนศิลปิน ดารานักแสดง นักท่องเที่ยว ร้านค้า และประชาชนในพื้นที่ ที่เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 500 คน ร่วมกันเก็บขยะทะเล และการแปรอักษรเพื่อร่วมกันแสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะช่วยกันดูแลรักษาชายหาดให้สะอาด ปราศจากขยะ ตลอดจนแสดงพลังความร่วมมือที่จะช่วยกันลดการใช้พลาสติกใช้แล้วทิ้ง เช่น ถุงพลาสติก แก้วน้ำพลาสติก เพื่อช่วยกันลดปัญหาขยะบกที่จะลงสู่ทะเลและกลายเป็นปัญหาขยะทะเลต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image