เหยี่ยวถลาลม : ใครจะเล่นเกมเสี่ยงคุก

ก็เพราะประยุทธ์ย้ำนักย้ำหนาว่ารัฐบาลนี้เอาจริงเอาจังในการบังคับใช้กฎหมาย เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน     ที่ผ่านมา จึงได้ถามด้วยหัวข้อเรื่องว่า “เชื่อหรือไม่”

เชื่อหรือว่า ปัญหาเกี่ยวกับที่ดิน 1,700 ไร่ของ “ปารีณา” จะไม่เปลี่ยนทิศทางลม

เชื่อหรือว่า จะไม่ลงเอยเหมือน “นาฬิกาเพื่อน” !

ทีกับคนอื่นฝ่ายอื่นรุมขย้ำทำร้ายไล่ล่ากันชนิดไม่มีที่ให้ยืน คราวนี้พวกเดียวกันพรรคเดียวกันประสบมรสุมจะหาทางออกอย่างไร

Advertisement

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ตั้งคณะทำงาน ให้ นายธวัชชัย ลัดกรูด ผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้ เป็นประธาน ร่วมกัน 4 ฝ่ายเข้าปฏิบัติการตรวจสอบพื้นที่ฟาร์มไก่ “ปารีณา” เสร็จก็แถลงสรุปชัดว่า ที่ตั้งฟาร์มไก่ปารีณาที่ตรวจสอบแล้ว 691 ไร่นั้น รุกป่า 46 ไร่

31 ไร่ รุกที่ป่าสงวนแห่งชาติ อีก 15 ไร่ รุกที่ของกรมป่าไม้

คณะทำงานจึงบันทึกร่วมกันว่าจะต้องดำเนินคดีอาญา !

Advertisement

กรมป่าไม้ยังอยู่ และ อรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ก็ยังไม่ไป

แต่ นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. มาแล้ว มาพร้อมประสานเสียงกับ ธรรมนัส พรหมเผ่า       ผู้เป็นนายว่า ต้องตรวจสอบเขตที่ดินปารีณาใหม่และ ส.ป.ก.ก็คงไม่ดำเนินคดีใดๆ กับผู้ถือครอง

ตามด้วย ทวี ไกรคุปต์ ผู้เป็นพ่อ ก็ออกมายืนยันว่า ที่ดินซึ่งเคยครอบครองและส่งให้ปารีณานั้นมีเพียง 700 ไร่ ไม่ใช่ 1,700 ไร่

ที่ดิน 1,000 ไร่ ทำท่าจะล่องหนไร้ร่องรอย !

แต่ “ปารีณา” เป็น ส.ส.มาหลายสมัย มีความรู้สูง มีวุฒิภาวะได้แจ้งเอาไว้ในบัญชีทรัพย์สินต่อ “ป.ป.ช.” ว่าเป็นเจ้าของที่ดิน 1,700 ไร่ และเสียภาษีดอกหญ้าตลอดมา

แจ้งบัญชีทรัพย์สินหนี้สินเป็นเท็จต่อ ป.ป.ช. ต้องมีโทษ

ความผิดฐานบุกรุก ยึดครอง พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และที่ของป่าไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ก็มีโทษทางอาญาน่าหนักใจ

“ข้าราชการประจำ” ย่อมทำหน้าที่ “สนองนโยบาย” แต่ปัญหาที่ต้องขบคิดใคร่ครวญด้วยสติปัญญามีอยู่ว่า สนองนโยบายอย่างไรจึงจะไม่ติดคุก

อาจารย์ไชยณรงค์ เศรษฐเชื้อ แห่งมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ถึงได้ถาม ชาวบ้านธรรมดาๆ ที่ “บ้านจัดระเบียบ” อ.ภูพาน จ.สกลนคร กับที่ “บ้านซับหวาย” จ.ชัยภูมิ ติดคุกติดตะรางกันระนาว

“ปารีณา” จะรอดด้วยปาฏิหาริย์แห่งอำนาจรัฐหรือ !?!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image